ลิลิตพระลอ: Feb 3, 2007

ลิลิตพระลอ

Name:
Location: Bangkok, Thailand

Saturday, February 3, 2007

ปู่เจ้าสมิงพราย


วางอุบายขออนุญาตเข้าป่า
เตรียมขึ้นเขาหาปู่เจ้าสมิงพราย

    พระเพื่อนพระแพงแสดงปฤศนาให้ทราบเล่ห์วิธี ด้วยมิกล้าออกปาก (เปนพระราชธิดา ไหนเลยจะออกปากบอกเล่ห์เหลี่ยมโกหกคดโกงตรงๆได้) สองพี่เลี้ยงตีความออก ไปหลอกพระย่าและพระบิดาพระมารดาว่า พระเพื่อนพระแพงได้ไข้ขวัญหนีเข้าป่าเขา จำต้องตามเข้าไปรับขวัญกลับสู่เกล้าโดยเร็วพลันในเช้าวันพรุ่ง
    เบิกช้างต้นชื่อ เทียมลม กับ พระพาย ไปรับพ่อปู่หมอใหญ่ เตรียมขึ้นเขาขอปู่เจ้าสมิงพรายช่วยเหลือ
________________________________

โคลง ๔
    o สองศรีเสาวภาคย์ได้ฟังสาร
ถนัดดั่งพระภูบาลจักเต้า
คือสุริยส่องบัวบานสรดร่อ กันนา
เกรงเกลือกเยียวความเร้ารั่วรู้ฤาดี ฯ
    o สองกรกลเกียดเกี้ยวกรรชิด
แสร้งใส่กลปกปิดเงื่อนไว้
ความขำซ่อนซอนมิดงำแง่ งามนา
เอาชอบลอบปนให้แปลกร้ายเปนดี ฯ
    o พี่เลี้ยงเห็นเล่ห์แล้วยินฉงน อยู่นา
สองใส่กลเหนือกลใช่น้อย
ไหว้พระย่ายังยลหลานราช ฤๅแม่
สองอยู่สองเศร้าสร้อยสรากหน้าตาหมอง ฯ
    o หมอดูหมอว่าให้รับขวัญ
ขวัญอ่อนเขจรจรัลจิ่มฟ้า
ขวัญเที่ยวทั่วแดนบรร-พตป่า ดงนา
ให้รับขวัญอย่าช้าพรุ่งเช้าวันดี ฯ
    o ย่าเจ้าฟังข่าวร้อนอาดูร เดือนนา
เขือเร่งเร็วไปทูลแด่ไท้
พระภูบดินทร์สูรย์บิตุราช สองนา
ข้าพี่เลี้ยงไปไหว้บอกท้าวทุกอัน ฯ
    o ครั้นฟังธิราชร้อนรนใจ อยู่นา
หมอจักเอาอันใดเร่งให้
ไปเรียกรับขวัญในเขาปู่ พระเอย
หมอสั่งเขือข้าได้ชอบช้างตัวเร็ว ฯ
    o เขือไปอุปกาศแล้วเขือมา
ทูลแด่สองธิดาอยู่เกล้า
สองฟังหฤหรรษาชมชื่น ใจนา
สองพี่เร็วไปเช้าช่วยน้องจงพลัน ฯ
    o เบิกเอาช้างต้นชื่อเทียมลม ธพี่
กับพระพายพลันสมชื่อแท้
เทียมใจเลิศแลชมฝีย่าง มันนา
เร็วเร่งเร็วนักแล้เลิศด้วยเดิรพลัน ฯ




โคลง ๒
    o ไก่ขันเขียวผูกช้างมาเทียบทั้งสองข้าง
แนบข้างเกยนาง ฯ 
    o ไป่ทันสารสั่งไท้พระแต่งจงสรรพไว้
เยียวปู่เจ้าเรามา ฯ 
    o เผือจักลาแม่ ณ เกล้าจักอยู่เยียวจนรุ่งเช้า
จักช้าทางไกล ฯ 

ร่าย
    o ขึ้นช้างไปผผ้าย มาคคล้ายโดยทาง ถับถึงกลางจรอกปู่ หมอเถ้าอยู่แลเห็น แสร้งแปรเปนโฉมมลาก เปนบ่าวภาคบ่าวงาม สองถึงถามหาปู่ ปู่หัวอยู่ยแย้ม ข้อยว่าสองแฉล้ม มาแต่ด้าว แดนใด ฯ

โคลง ๒
    o สองคะนึงในใคร่รู้ลูกหลานปู่ฤๅผู้
อื่นโอ้ไป่งามบารนี ฯ
    o กามกรรหายยั่วข้างคิดแต่จักช้าช้าง
ท่านไส้จักเปนป่วยนา ฯ

ร่าย
    o บนานเห็นปู่ รูปเถ้าอยู่ดูหลาก สองประจากษ์ตกใจ ใครจักปูนปู่ได้ ปู่ช่วยสองลูกไท้ แต่นี้ฤๅไป อื่นเลย ฯ

โคลง ๓
    o เสียไฟเป่าหิ่งห้อยแรงปู่นี้รู้น้อย
เผือไป่เลยนอ ฯ 



ในรายทางสู่เขาเขียว
สองพี่เลี้ยงพบปู่เจ้าสมิงพราย

    บรรยายบรรยากาศทั่วไป กล่าวถึงไม้ไล่แต่สังเขป(จะมีโดยพิศดารตอนอื่น) ตอนนี้เน้นถึงประดาสัตว์ร้ายที่ล้วนน่าสะพรึงกลัว ซึ่งเปนสิ่งอันปู่เจ้าสมิงพรายดลให้เปนไป ให้เห็น
    พ่อหมอเฒ่าพาพี่เลี้ยงทั้งสองเข้าพบปู่เจ้าสมิงพราย
"หึง" = นาน     บหึง, บ่มิหึง = ไม่นาน
"ทำงน" (เขมร) = ก.ห่วงใย,ยุ่งใจ   น.ความทุกข์ใจ, ภาระ)
________________________________

ร่าย
    o เชิญปู่หมอขึ้นขี่ ขับช้างปรี่ปรึงตาม ทั้งสามไปรร่าย บ่ายหน้าสู่เขาเขียว เหลียวแลทางจรลิ่ว เหลียวแลทิวเทินป่า ฝ่าแฝกแขมแกมเลา ดงประเดาประดู่ หมู่ไม้ยางไม้ยูง ตเคียนสูงสุดหมอก พยอมดอกมุ่งเมฆ อเนกไม้หลายพรรณ มีวัลย์เวียนเกี้ยวกิ่ง ไม้แมกมิ่งใบรบัด ลมพานพัดรลอก ดอกดวงพวงเผล็ดช่อ กระพุ่มห่อเกสร สลอนบุษบาบาน ตระการกลิ่นหอมหื่น ชื่นซรุกลูกเหลืองล่อน ใบอ่อนต้นลำอ้อน กิ่งก้านแกมงาม ฯ

ร่าย
    o ตามกันไปบหึง ถึงตีนเขาแต่ล่าง แลลิงค่างบ่างชนี ผีผิ่วร้องน่ากลัว หัวหูพองอยู่คร้าม เสือสางด้ามด้อมทาง แรดควายขวางขวัดอยู่ หมู่กระทิงเที่ยวป่า วัวลานล่าเล็มไพร หมู่หมีไปคคล้าย นางช้างผ้ายคคล่ำ บรู้กี่ส่ำตามสาร งูพพานพิษกล้า งูเหลือมคว้ารัดควาย เยียงผาผายปีนป่าย ฝ่ายช้างพังเซราซรึก สัตว์พันฦกพันลาย หมอมิกลัวกลายจรคล่าย เข้าป่าไปคลายคล้าย ด่วนดั้นโดยทาง ฯ

ร่าย
    o เอนดูสองนางตกใจกลัว รรัวหัวอกสั่น ลั่นททึกททาว สราวตามหมอผะผ้ำ เห็นแนวน้ำบางบึง ชรทึงธารห้วยหนอง จระเข้มองแฝงฝั่ง สรพรั่งหัวขึ้นขวักไขว่ ช้างน้ำไล่แทงเงา เงือกเอาคนใต้น้ำ กระล่ำตากระเหลือก กระเกลือกกลอกตากลม ผมกระหวัดจำตาย ฝ่ายหนปลายไม้แมก ฟังเสียงแสรกเง้างูด ทิ้งทูดบ่นพพึมเสียง เค้ากู่เคียงคู่ร้อง ก้องดงดุจตระหวาด ผาดฟังตกใจกลัว หมอเถ้าหัวไปพลาง โลมสองนางอย่าตกใจ บเปนใดดอกนะแม่ กระแหน่นี้นะเจ้า พระปู่เราหากทำเอง หมอมิกลัวเกรงสักสิ่ง ขับช้างวิ่งขึ้นเขา เคร่ากันไปบหึง ถับถึงแต่ตีนเขา หมอเถ้าลงจากช้าง ไว้สองนางอยู่แต่ไกล หมอจึงเข้าไปสู่ ปู่เจ้าปู่เจ้าสมิงพราย ถึงถวายกรกราบไหว้ บอกว่าพระหลานไท้ เพื่อนท้าวแพงทอง ฯ

โคลง ๒
    o ทำงนสองเท่าฟ้ามาบำบวงให้ข้า
นำพี่เลี้ยงสองมา ฯ 
    o ปู่เจ้าว่าหมอไส้ไปเรียกมาให้ใกล้
แทบนี้อย่าขาม ฯ 
    o หมอบอกความสองเจ้าพระปู่ให้สองเฝ้า
ไปสู่แล้วเชิญเขือ ฯ 
    o สองเห็นเสือกราบเฝ้าคร้ามกลัวก้มกรานเข้า
ไปกราบไหว้ทั้งสอง ฯ 


คือ ปู่เจ้าสมิงพราย (๑)
ปู่รับปากไปหาพระเพื่อนพระแพง
สองพี่เลี้ยงลงจากเขา

    คือปู่เจ้าสมิงพราย
    ปู่เข้าฌานเพ่งเรื่องราวอันเปนมาแลจะต้องเปนไป ก็รู้ได้ถ้วนว่าล้วนเปนแต่บรรพกรรมนำชัก จึ่งรับปากไปสู่สองพระธิดา
    ในรายทางขากลับของพี่เลี้ยงทั้งสอง แลล้วนแต่สิ่งอันพึงอภิรมย์ เปนอีกตอนหนึ่งที่แสดงถึงความชำนาญทั้งอักษรศิลป์ ตลอดจนพรรณไม้แลสรรพสัตว์ ของผู้ทรงนิพนธ์
อ่านเพลินนัก..
________________________________


พ่อหมอเฒ่าเรียกสองพี่เลี้ยงเข้าพบปู่เจ้าสมิงพราย
ในภาพจะเห็นว่ามีสัตว์อยู่ด้วยหลายตัว


ร่าย
    o ตามองเสือพรับ เห็นเสือกลับเปนแมว แถมจราศศุภลักษณ์ มลักเห็นโฉมปู่เจ้า แปรรูปเถ้าหงอกสกาว คิ้วขาวขนตาเผือก กลับตระเลือกเปนบ่าว พึงมล่าวโฉมกล้องแกล้ง งามอรรแถ้งโถงเถง ทรงลักเลงเสสรวล สคราญครวญงามถนัด รบัดเปนกลางแก่ ตระแหน่รูปลักษณดี มีมารยาทเสี่ยมสาร สองถวายสการบูชา อันแต่งมาทุกสิ่ง จึ่งทูลสารสองไท้ สองราชก้มกราบไหว้ พระบาทเจ้ากูมา ฯ

โคลง ๒
    o ทุกขธิดาเท่าฟ้าเห็นแต่พระเจ้าข้า
พระปู่เจ้าองค์เดียว ฯ 
    o ขับเขียวมาแต่เช้าสองให้เชิญพระเจ้า
โปรดเปลื้องทุกข์หลานท่านเทอญ ฯ
    o เชิญช่วยภารลุแล้วเงินแลทองกองแก้ว
อเนกข้าขอถวาย ฯ 
    o กามกรรหายเหิ่มไหม้พระช่วยพระชักให้
ลอราชพ้นความตาย ฯ 

ร่าย
    o ปู่ไป่ผายตอบถ้อย อยู่น่อยหนึ่งบมินาน ปู่ก็ธิญาณเล็งดู กูจะช่วยควรฤๅมิควร รู้ทั้งมวลทุกอัน ด้วยผลกรรม์เขาแต่ก่อน ทำหย่อนหย่อนตึงตึง ส่วนจะถึงบมิหยุด เถ้าว่าจะพลัดสุดพลันม้วย ด้วยผลกรรมเขาเอง แต่เพรงเขาทั้งสอง ทำบุญปองจะไจ้ ขอได้พึ่งบุญตู ปู่ดูเสร็จจึ่งว่า สองนางอย่ากล่าวอ้าง ถึงสินจ้างสินบน ตนกูจักไปสู่ ถึงที่อยู่สองเจ้า เขือเข้าไปก่อนกล่าว ข่าวดั่งนี้ให้ฟัง กูจะไปภายหลังบช้า ผิมิวันนี้อ้า พรุ่งนี้กูถึง ฯ

ร่าย
    o สองพึงใจคำปู่ ไหว้รับอยู่บมิวาง สองนางสนองคำตอบ ขอบคำพระปู่เจ้า เสมออมฤตร้อยเต้า มาโสรจให้สร่างเสบย ฯ
ร่าย
    o พระเอยเขือข้ามา จักตายช้าตายมอด เนื้อนกหลอดหนทาง สางแสกทูดคูดเค้า ขอพึ่งบุญพระเจ้า จงพ้นความกลัว ฯ

โคลง ๒
    o ปู่หัวอยู่ยะแย้มข้อยว่าสองแสล้ม
อย่าร้อนใจเขือ ฯ 

โคลง ๓
    o สองนางเมือเห็นวันจงทันออกปากป่า
ไปว่าหลานแก้วถ้าถ้าท่านทูลสาร ฯ

ร่าย
    o มินานนางโรยนางรื่น ไหว้ปู่ชื่นชมลา กับหมอมาขึ้นช้าง เลียบเดิรข้างตีนเขา คืนไต่เต้าตามทาง เหลียวหลังพลางจะไจ้ ชมไม้ไหล้สะอาด เหมือนปราสาทพิศาล คือพิมานมนเทียร อาเกียรณ์แกมดอกแดง แสงดุจปัทมราค ภาคใบเขียวสรด คือมรกตรุ่งเรือง ดอกเหลืองเพียงทองสุก ขาวดุจมุกดาดาษ โอภาสพรรณพิจิตร พิพิธภูมิลำเนา งามเอาใจใช่น้อย คล้อยลงถึงดินต่ำ เลงสบส่ำพฤกษา งามพอตาตาดู เพราะพอหูหูฟัง นกประนังกันร้อง เพราะไพรก้องป่าก้อง เพรียกพื้นพงพี ฯ

ร่าย
    o เสียงโนรีสาริกา สัตวาฝูงดุเหว่า แขกเต้าเคล้าคลิ้งโคลง นกเอี้ยงโองคู่เคียง เสียงแซ้งแซวภูรโดก โคกม้าม่ายนางนวล กะสาสรวลกระสันต์ กางเขนขันแผ่แพน แอ่นอกจอกจิบกด ขุนยูงชดขนฟ้อน กระหย้อนหางฟฟาย นางยูงรายรอบเฝ้า ทรายทองเคล้าคู่เคียง ระมั่งเมียงม่ายคู่ เกลื่อนกล่นอยู่คคล่ำ บรู้กี่ส่ำกี่สาร เห็นตระการสรนุก จริวจราวซุกจรจรัล บรู้กี่พรรค์ปูปลา นกหกดาดาษอยู่ หงษ์เหิรสู่สระสรง เป็ดน้ำลงลอยล่อง ทุงทองท่องจรจรัล จากพรากพรรค์ฟุบฟอง คับแคครองคู่หว้าย ดอกบัวผ้ายจับบัว ภมรมัวเมาซราบ อาบลอองเกสร สลอนบุษบาบาน ตระการดอกบัวแดง แฝงบัวขาวคลี่คล้อย สร้อยสัตบรรณบงกช รรวยรสกลิ่นจงกล นิโลตบลโกมุท อุบลบุษบัวเผื่อนฉลับ ป่ากลัวกลับกลายสรนุก สำราญสุขเปรมปรีดิ์ ช้างเร็วรี่ผาดผัง ถึงวังใกล้ปราสาท รับขวัญราชบิดา ขวัญสองมาสมสู่ อยู่กับองค์อ่อนไท้ ไฟแดดอย่ารู้ไหม้ ไข้อย่ารู้ถึง แม่เลย ฯ

โคลง ๒
    o คำนึงใดอย่าแคล้วลุลาภโดยใจแก้ว
อยู่เคล้าฤๅคลาหนึ่งเลย ฯ



คือ ปู่เจ้าสมิงพราย (๒)
ปู่รับปากช่วยด้วยเอนดู

    ปู่เหินหาวมาสู่ตำหนักพระเพื่อนพระแพงพลันที่พี่เลี้ยงมาถึง
    คือ ปู่เจ้าสมิงพราย... คือ ฤทธีแลตัวตนแห่ง แลการเปนซึ่ง
"ปู่เจ้าสมิงพราย"
    ปู่เจ้าฯรับช่วย แต่กำหนดเวลาที่พระลอจะมานั้นมิได้ เนื่องด้วยว่าข้างกระโน้นก็เปนเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ที่ไหนจะไร้บุญญาบารมีแลผู้ทรงฤทธีคอยปกป้อง
ร้อย = ชะรอย, กระหมั่ง
เมิล (เขมร) = ดู
________________________________

ร่าย
    o ส่วนธิดาทั้งสอง ตั้งเตียงทองราชอาสน์ พิดานดาดดัดบน เทียบขนนเขนยตระสัก ม่านปักแพร้วแพรพรรณ สรรพของหอมหาได้ สรรพดอกไม้หาถ้วน ล้วนแก้วต่างข้าวตอก ช่อดอกไม้เงินทอง ตระการแกล้มเหล้าขาว แต่งไว้รับปู่เจ้า ว่าแต่งไว้รับขวัญ ฯ

โคลง ๒
    o ไป่ทันว่าจแจ้วพระปู่เจ้ามาแล้ว
ก่อนแล้ถึงเรือน ฯ 

ร่าย
    o เห็นหาวเหมือนจรคลุ้ม ชรอุ้มบนเวหา สองสงกาจรไจ้ สองประนมมือไหว้ ร้อยปู่เจ้าเรามา ฯ

โคลง ๒
    o แลหาสองพี่เลี้ยงเห็นแต่ไกลมาเพี้ยง
ดั่งได้กินเมือง ฯ 
    o ประนังเนืองนั่งเฝ้า ข้าจึ่งลงช้างเข้า
มากราบไหว้สองนาง ฯ 
    o สองแลพลางสองไหว้ใดดั่งนี้ร้อยไท้
ปู่เจ้าเราฤๅ ฯ 
    o เขาว่าคือท่านแท้พระปู่เสด็จมาแล้
อย่าได้สงกา ฯ 
    o มาจะอาราธนปู่เจ้ากรประนมตั้งเกล้า
กราบไหว้ทั้งหลาย ฯ 
    o ปรายข้าวตอกดอกไม้ถวายธูปเทียนทองไหว้
กราบเกล้าสดุดี ฯ 
    o พระมียศยิ่งฟ้าขอพระเอนดูข้า
ท่านให้เห็นองค์ท่านนา ฯ



โคลง ๔
    o สองผจงอาราธน์ไหว้อารักษ์
ขอท่านแสดงสิทธิศักดิ์อย่ากั้ง
ขอเป็นที่พำนักนิตยแด่ เผือนา
ขอพระปู่เจ้าตั้งแต่งให้เป็นตัว ฯ
    o บัดเดี๋ยวพระปู่ให้เห็นองค์ ท่านนา
งามรูปงามโฉมยงอเคื้อ
บผอมบพีทรงบหนุ่ม งามนา
บแก่ผมผิวเนื้อปากคิ้วตาตรู ฯ
    o สองเจ้าเห็นปู่เจ้าสองชม ชื่นนา
สองกราบกรบังคมเคี่ยมไหว้
สองถวายเครื่องอุดมสบสิ่ง แลนา
ผจงแต่บูชาไท้ปู่เจ้าจงเอา ฯ
    o ปู่เห็นสองเจ้าเพ่งภักดี อยู่นา
ใจปู่ปองปรานีหนุ่มเหน้า
ปู่เอากระยาศรีผจงแต่ง ถวายนา
เห็นปู่รับสองเจ้าพี่น้องยินดี ฯ
    o แล้วสองกราบไหว้บ่ำบวงสรวง ท่านนา
ความยากแถลงทั้งปวงถี่ถ้อย
ขอพระช่วยชูทรวงทุกข์เทวษ ไส้พ่อ
ลุลาภเขือข้าค้อยท่าได้โดยจง ฯ
    o จะถวายแก้วเก้าโกฏิเงินทอง
แลสิ่งแลเกวียนกองลากให้
วัวควายเผือกเขาทองหงส์ห่าน หมูนา
เป็ดไก่เหล้าขาวไหว้ปู่เจ้าแทนคุณ ฯ
    o ปู่ฟังปู่ว่าอ้าอดสู บารนี
สองอย่าบนบานตูเกลียดจ้าง
ภักดีสิ่งเดียวดูดียิ่ง ดีนา
ความโรคเขือจักร้างอย่าร้อนใจเขือ ฯ
    o ใช่กลผีไส้ขาดลเมอมา อยากนา
เร่ร่อนขวยขวายหาเตร่ต้อง
ขุกเท็จกล่าวมารษาจำท่าน บลนา
ทำบาปมาเลี้ยงท้องร่างร้ายฤๅอาย ฯ
    o เรานี้เราเทพเจ้าจอมผา ไส้นา
เขาใส่สมญาเราปู่เจ้า
แรงบุญส่งสนองมาพูลเพิ่ม แลแม่
เสวยพิภพล้านเข้าชั่วฟ้าล่มกัลป์ ฯ
    o สิทธิฤทธิเรืองเดชด้วยผลบุญ ส่งนา
สร้างกุศลเป็นทุนบ่ร้อน
สมบัติดั่งมีกุลไหลหลั่ง มานา
สรรพพิภพช้าช้อนเลิศล้วนสมบูรณ์ ฯ
    o ปู่เห็นสองเจ้าปู่ปรานี นักนา
จักช่วยสองกษัตรีย์อย่าร้อน
จักเชิญพระลอลีลาสู่ สองนาง
สองแม่อย่าไข้ข้อนอยู่ถ้าฟังสาร ฯ
    o สองไหว้สองกราบเกล้าสองถาม
ยังเท่าใดขุนงามจักเต้า
ปู่เฉลยใช่คนทรามคนชั่ว ณ แม่
ขุนขี่เกล้าหน่อเจ้าแผ่ผู้มีบุญ ฯ
    o หมอเถ้าหมอแก่แก้คุณความ มากนา
จักกำหนดโดยถามไป่ได้
หลานเอยค่อยพยายามฤๅรอด เราเลย
บร่างนานนักไท้ธิราชผ้ายถึงเรา ฯ

โคลง ๒
    o สองนงเยาว์เคร่าถ้าแม้ว่าเห็นพระช้า
จึ่งให้ไปเตือนปู่เทอญ ฯ
    o เตือนสองสระเกศแก้วพระประสิทธิ์ให้แล้ว
ปู่เจ้าลาสอง ฯ 
    o มองตาเมิลปู่ผ้ายหายบัดเดี๋ยวเห็นคล้าย
คลาศเพี้ยงลมลิว ฯ 

________________________________

ปู้เจ้าเรียกพระลอ


ปู่เจ้าสมิงพรายเรียกพระลอสองหนแรก
ทางสรวงแก้ได้

    หนแรกปู่เจ้าสมิงพรายทำยันต์เสน่ห์แลใช้กังหันลมติดยอดยางเจ็ดอ้อมกำกับ
พระลอฝันเห็นพระเพื่อนพระแพง ร่ำร้องจะไปหา แต่ทางสรวงก็แก้มนตร์หนแรกนี้ได้
    หนที่ ๒ ใช้ธงสามชายปักปลายตะเคียนเก้าคนโอบส่งยาสั่ง
ทางสรวงได้พ่อหมอสิทธิไชยช่วยแก้ไข กับทั้งทำการป้องกันไว้ครันครบ "... บั้นในไว้อารักษ์ กลางไว้ยักษ์บริบาล ทวารนอกไว้ปีศาจ อากาศไว้ภูตคณา..."
    ตอนนี้นอกจากจะเห็นวิธีทำเสน่ห์ยาสั่งแล้ว ยังบรรยายถึงความรัก ความทุกข์ แลความพยายามของผู้เปนแม่
    ปู่เจ้ารู้ว่าข้างสรวงมีผู้ทรงอาคมแก่กล้าเทียมกันมาช่วย ตัดสินใจลงมือสู้ให้เต็มที่


________________________________

ร่าย
    o เฉียวฉิวถึงที่อยู่ ปู่เอาไม้เลี้ยงไม้ไล่ ไม้ไผ่ไขว่ลูกลม เขียนพระตนกลมอยู่กลาง เขียนสองนางแลองค์ สองอนงค์กอดรูปเท้า โนมน้าวชักชวนมา ยันต์มายารายรอบ รายขอบทั้งสี่คู่ ปู่ชุบณมนต์เมิลไม้ ยางใหญ่ได้เจ็ดอ้อม ปู่ปั้นมือตีค้อม ยอดตั้งติดดิน ฯ

ร่าย
    o ครั้นยางยินคำปู่ ใจพระลออยู่บมิกลม ปู่เอาลูกลมปักปลายยาง วางมือบัดเดี๋ยวดาย ปลายไม้ผายยยัน ใบไม้ผันยย้าย คล้ายลุงตรงตระบัด ลมพัดลูกลมผัน กลกังหันคคว้าง ลอบพิตรเจ้าช้าง ปั่นเพียงลมผัน ฯ



โคลง ๔
    o ฝันเห็นพระเพื่อนไท้แพงทอง
สองแนบนอนแนมสองตราบไท้
สองศรีสอดกรตระกองกอดราช แลนา
ชวนชักไปไล้ไล้สู่บ้านเมืองสอง ฯ

โคลง ๒
    o พระทองผทมตื่นขึ้นสทึ่นเที้ยรสอื้น
ประหว่าโอ้โหยหา ฯ 

ร่าย
    o บ่คลาสมปฤดีบพิตร พระสนมสกิดกันดู เห็นพระภูธรพิการ จึ่งเอาสารพิกล ดลแด่ภควดี ชนนีนาถรู้ข่าว ร้อนผผ่าวหฤทัย ธไปยังลูกบพิตร ท้าวธเห็นผิดแก่ตา ธก็ว่าบาบงกชจอมใจ พ่อเปนใดแก่อกแม่ ท้าวก็ทูลแด่แม่ณหัว วันนี้ตัวข้าสั่น ใจข้าปั่นผัดผัน คืนนี้ฝันเห็นถนัด ว่าสองกษัตริย์เพื่อนแพงทอง นอนแนบสองข้างข้า หน้าแนบหน้าอิงอร สองสอดกรกอดเกื้อ โลมลูบเชื้อเชิญไป ใจข้าไหวดังจะผก อกข้าปั่นดังจะคว่ำ ทุกข์บ่รู้กี่ส่ำแสนเศร้า จักใคร่เต้าไปหา เยียวลูกลาแม่ ณ เกล้า ขอบพิตรพระเจ้า ท่านท้าวเอนดู ลูกรา ฯ

โคลง ๔
    o ออกท้าวฟังลูกไท้ทูลสาร
ถนัดดังใจจักลาญสวาทไหม้
น้ำตาท่านคือธารแถวถั่ง ลงนา
รู้ไห้บกี้ไห้สรอื้นอาดูร ฯ
    o ตีอกโอ้ลูกแก้วกลอยใจ แม่เอย
เจ้าแม่มาเปนใดดั่งนี้
สมบัติแต่มีในภพแผ่น เรานา
อเนกบรู้กี้โกฏิไว้จักยา พ่อนา ฯ
    o นายแก้วจักอยู่เร้งไปหา
เร็วเร่งพระโหรมาอย่าช้า
หาหมู่หมื่นแพทยาหมอภูติ มานา
หาแม่มดถ้วนหน้าหมู่แก้กฤติยา ฯ
    o นายขวัญหาจุ่งถ้วนทั้งหลาย
ทุกหมื่นขุนมุลนายช่วยไส้
เถมิลไพรเร่งขวยขวายยาป่า มานา
ยาเทศทั้งปวงไว้ฝ่ายข้างชาวคลัง ฯ
    o คลังกูคลังลูกแก้วกูนา
จักจ่อมจ่ายเยียวยาหน่อเหน้า
สิ้นทั้งแผ่นดินราแม่ลูก ก็ดี
สิ้นแต่สินจงเจ้าแม่ได้แรงคืน ฯ
    o ขวนขวายถึงขนาดพร้อมเพรียงกัน
หมอว่าใดทำสรรพ์สิ่งนั้น
บนานพระลอพลันสรว่าง เสบยนา
ถ้อยหมู่หมอมาหั้นท่านให้เหลือเฟือ ฯ
    o ออกท้าวธิราชได้แรงรมย์
นางพระยาพระสนมชื่นหน้า
มนตรีไพร่เมืองชมสดชื่น เสบยนา
ลอบพิตรเจ้าหล้าสว่างคลุ้มหายมัว ฯ


โคลง ๒
    o สองบัวบุษปอยู่ถ้าฟังข่าวพระลอช้า
อกร้อนคือไฟ ฯ 
    o ให้ไปเตือนปู่เจ้าปู่ว่ามีหมอเถ้า
แก่แก้คุณเรามากนา ฯ

ร่าย
    o ปู่ก็เอาธงสามชาย รายยันต์มากกว่าเก่า เขียนพระลอเจ้าอยู่กลาง กอดเจ้าช้างรัดรึง ชักทึงท้าวชวนเต้า แล้วปู่เป่าตะเคียน ใหญ่เก้าอ้อมใช่สามาญ ปลายไม้กรานก้มลง ปู่เอาธงปักผลักขึ้น ต้นไม้ฟื้นฟฟั่น ใบไม้สั่นฟฟัด ลัดลุกขึ้นยืนตรง ลมลิ่วธงททัด พัดถูกธงททาว ลมสร้าวเสียงเฉียวฉิว ปลิวกระพือยาหยูก ถูกพระองค์ท่านไท้ ถนัดดั่งสองนางไล้ ลูบให้แลเห็น องค์นา ฯ

ร่าย
    o ท้าวธเป็นหนักเล่ากว่าก่อน ดังเห็นสองอ่อนแก่ตา มาชักไท้สู่หย้าว มาเชิญท้าวธสู่เรือน ใจท้าวธเฟือนฟฟั่น สั่นพระองค์ทท้าว น้าวพระองค์ยยัน ผันพระพักตร์บพิตร ไปยังทิศตวันออก เขาจึงบอกนาฎบุญเหลือ ธรีบเมื่อยังลูกไท้ ไห้มาพลางรันทด สลดฤทัยพระองค์ ทรุดนั่งลงแลพระพักตร์ พระลอลักษณดิลก ทาบตีอกร้องไห้ มือทุ่มทรวงไล้ไล้ ลูกแก้วกับตน แม่เอย ฯ

โคลง ๔
    o เจ้าไข้ทุกข์แม่เพี้ยงภูเขา ลูกเฮย
เจ้าเคลื่อนทุกข์บางเบาสว่างร้อน
มาเห็นพ่อเงียบเหงาหนักกว่า ก่อนนา
ทุกข์เร่งซ้อนเหลือซ้อนยิ่งฟ้าทับแด ฯ
    o หญิงชายเหลือแหล่งหล้าฤๅยล ยากนา
เห็นแต่เราสองคนคู่ม้วย
ฉันใดพ่อกับตนเป็นดั่ง นี้นา
แม้พ่อตายตายด้วยพ่อแล้จอมใจ แม่เอย ฯ
    o นายแก้วนายขวัญเร่งขวนขวาย หนึ่งรา
หาหมู่หมอทั้งหลายทั่วหน้า
มาเร็วเร่งยาสาย-สมรแม่ เร็วรา
เดิรด่วนอย่าได้ช้าช่วยด้วยหัวใจ ฯ
    o หาสิ้นสบส่ำถ้วนมดหมอ
ทั้งแผ่นดินฤๅหลออยู่ได้
มาแก้พระเลืองลอฤๅเคลื่อน คลายเลย
พระแม่ไท้เห็นไท้ลูกท้าวพิศวง ฯ
    o ท่านไท้ชุมถ้วนมิ่งมนตรี ท่านนา
เผยม่านผายเสาวนีท่านพร้อง
สมเด็จปิ่นภูมี-ศวรราช เรานา
ยาบหายไข้ข้องสวาทแค้นคาใจ ฯ
    o ตรวจไตรหาหน้าหมู่มดหมอ
ดีจะยังเหลือหลออยู่บ้าง
สิ่งใดจะพึงพอคิดเร่ง คิดนา
ใดชอบทำอย่าร้างเร่งเทิ้ญเร็วทำ ฯ

ร่าย
    o มนตรีจำพระกฤษฎีกา ตรวจหาหมอทุกผู้ จึ่งรู้ว่าหมอสิทธิไชย นั้นออกไปอยู่ป่า รู้มลักกว่าทั้งหลาย คุณพันลายพันลึก ตรึกไตรศาตราคม บันสมสิทธิสามารถ ชำงัดโดยคุณโดยฤทธิ์ ธประกาสิตเร็จสรรพ เขาเร่งรับปู่เข้ามา ปู่ตั้งลากูณฑ์พิธี พลีเทพผู้มีฤทธิ์ ศักดิ์สิทธิมนตราคม บันสมทำโดยศาสตร์ ให้พระลอราชหายหลง ให้ท้าวธสรงอุทกมนต์ เจ้าสากลสว่างเสบย เสวยโอสถประสิทธิ์ อันมีฤทธิ์พิเศษ สระพระเกศพระสกนธ์ ตั้งมณฑลสามชั้น บั้นในไว้อารักษ์ กลางไว้ยักษ์บริบาล ทวารนอกไว้ปีศาจ อากาศไว้ภูตคณา อยู่รักษาทุกแห่ง แล้วแต่งการเอิกเกริก เบิกสมโภชพิธี เบิกบายศรีทำขวัญราช พระบาทให้รางวัล สรรพอุปโภคพิพิธ แก่หมอสิทธิไชย หมอถัดไปโดยลำดับ ให้สำรับเสื้อผ้า ให้แก่หมอถ้วนหน้า ผู้เฝ้ารักษา ท่านนา ฯ

โคลง ๔
    o เอ็นดูสองราชไท้ธิดา ท่านนา
ท่าบ่เห็นโหยหาอกไหม้
พระลอราชจักมาฤาไป่ มาเลย
สองราชละห้อยไห้แต่ถ้าภูบาล ฯ
    o จึ่งใช้สองพี่เลี้ยงไปพลัน
ถามปู่เปนฉันใดดั่งนี้
ข้าไปบังคมคัลพระปู่ แลนา
พระปู่เฮยยังกี้เมื่อท้าวจักมา ฯ
    o ปู่เล็งเห็นทั่วแล้วทุกอัน นาแม่
บอกข่าวเขาแก้กันแต่งเฝ้า
มดหมอจักเทียมทันเขายาก นักนา
ไว้ปู่จักกลอยเถ้าต่อด้วยเข้าเอง ฯ

โคลง ๒
    o เขืออย่าเกรงเกลือกช้าสองจักพลันเห็นหน้า
พระบาทท้าวจักถึงแม่แล ฯ



หนที่สาม ปู่เจ้าสมิงพรายใช้ไม้ตายเรียกพระลอ
ศึกผีสองนครา
สลาเหิน

    ปู่เจ้าสมิงพรายระดมพลสาระพัดผี สั่งให้ไปทะลวงเกราะป้องกันเมืองสรวงที่ปู่หมอสิทธิไชยสร้างไว้ เพื่อเปิดทางใช้หมากเคี้ยวลงอาคม "สลาเหิน"
    การรบพุ่งของผีของปู่เจ้ากับอารักษเทวา ภูติผีแห่งเมืองสรวง
ผีข้างเมืองสรวงพ่ายหนี ปู่เจ้าจึงใช้ "สลาเหิน" ลอยขึ้นฟ้าแล้วไปตกลงปนในพานหมากของพระลอ
ครั้นพระลอเสวยหมากมนต์ก็เกิดอาการหนักหนา สุดที่หมอสิทธิไชยจะแก้ไขได้





ร่าย
    o ปู่รำพึงถึงเทพดา หากันมาแต่ป่า มาแต่ท่าแต่น้ำ มาแต่ถ้ำคูหา ทุกทิศมานั่งเฝ้า พระปู่เจ้าทุกตำบล ตนบริพารทุกหมู่ ตรวจตราอยู่ทุกแห่ง ปู่แต่งพระพนัสบดี ศรีพรหมรักษ์ยักษ์กุมาร บริพารภูตปีศาจ ดาเดียรดาษมหิมา นายกคนแลคน ตนเทพยผู้ห้าวท้าวผู้หาญ เรืองฤทธิ์ชาญเหลือหลาย ตั้งเปนนายเปนมุล ตัวขุนให้ขี่ช้าง บ้างขี่เสือขี่สีห์ บ้างขี่หมีขี่หมู บ้างขี่งูขี่เงือก ขี่ม้าเผือกผันผาย บ้างขี่ควายขี่แรด แผดร้องก้องน่ากลัว ภูตแปรตัวหลายหลาก แปรเปนกากภาษา เปนหัวกาหัวแร้ง แสร้งเปนหัวเสือหัวช้าง เปนหัวกวางหัวฉมัน ตัวต่างกันพันลึก ลคึกกุมอาวุธ เครื่องจะยุทธยงยิ่ง เต้นโลดวิ่งระเบง คุกเครงเสียงคะครื้น ฟื้นไม้ไหล้หินผา ดาษดากันผาดเผ้ง รเร้งร้องก้องกู่เกรียง เสียงสเทือนธรณี เทียบพลผีเสร็จสรรพ ปู่ก็บังคับทุกประการ จึ่งบอกสารอันจะใช้ ให้ทั้งยามนตร์ดล บอกทั้งกลอันจะทำ ให้ยายำเขาเผือด มนตราเหือดหายศักดิ์ ให้อารักษ์เขาหนี ผีเขาแพ้แล้วไส้ กูจึงจะใช้สลาเหิร เดิรเวหาไปสู่ เชิญพระภูธรท้าว ชักมาสู่สองหย้าว อย่าคล้าคำกู สั่งนี้ ฯ

โคลง ๔
    o น่าดูพลปู่เจ้าจอมผา
อึงอึดอัมพรคลาคลาศเต้า
ผีภูผาตคณานับโกฏิ เกรียงแฮ
ไคลคลี่พลคลาเต้าด่วนได้โดยโพยม ฯ
    o พิศเพี้ยนผีพวกพ้องเพียงพล มารแฮ
เต็มป่าพฤกษ์ไพรสณฑ์แหลกหลู้
บนานก็มาดลแดนราช
ผีฝ่ายแดนชุกรู้เร่งเร้งเรียกกัน ฯ

ร่าย
    o มากลากลาศกันแดน ผีแขกแค้นเข่นขุก ผีแดนรุกรบพุ่ง แล่นไล่ยุ่งโลดเต้น บ้างหลบบ้างหลีกเร้น บได้ตอบตี ฯ

โคลง ๔
   o ผียยุ่งรบกับด้วยผีแขวง แดนนา
ผีทุ่มผีไล่แทงผาดผ้าย
ผันแผงแผดรบแรงร้องเร่ง พลนา
ผีแขกรุกราญร้ายรบเร้ารอนผลาญ ฯ

ร่าย
    o ผียยุ่งรบกัน ครรชิตฤทธิราวี ผีทุ่มผีไล่แทง รบแรงผันเผ็งแผด ผีเจ้าแจดจ้ายจ้าย ร้องเร่งพลคล่ำคล้าย ผาดผ้ายรุกราญ ฯ

ร่าย
    o ผีบันดาลไฟคลุ้ม ให้ควันกลุ้มเวหา ด้วยแรงยาแรงมนต์ ผีแดนทนทานยาก จึ่งฝากข่าวแก่ลม กึกก้องอมพรมี่ ลัดพลัดปรี่ปรึงมา บอกแก่เทพดาเสื้อเมือง ฟ้าหล้าเหลืองอุบาทว์ อากาศคลุ้มเปนควัน ฟ้าเครงครรชิตผ่า ใจเมืองบ้าดังจะผก หัวอกเมืองดังจะพัง เทพดาฟังฟฟั่น ตกใจสั่นระรัว กลัวฤทธิ์พระปู่ ผู้มีเดชเกรียงไกร หมอสิทธิไชยเล็งเห็น ทีนี้เข็ญเกิดใหญ่ ปู่หมอใคร่ใจดู ครูกูชี้ให้เห็น อันเปนนั้นปรตยักษ์ ด้วยสิทธิศักดิ์ผีสาง จึ่งทูลแด่ออกนางนาฎชนนี ฟังคดีอัศจรรย์ ว่าจะกันกันบได้ ให้มาเห็นเข็ญปลาด ทุกประการนาฎพิลาป สองมือทาบตีอกไห้ ใครจักช่วยเจ้าได้ ลูกแก้วกับตนแม่เฮย จอมใจแม่ฮา ฯ

โคลง ๔
    o ปู่หมอใดดั่งนี้อกกู
เชิญปู่เล็งแลดูก่อนไส้
ปู่เอยเอนดูตูเชิญช่วย ตูรา
ปู่ช่วยลุจักให้กึ่งแล้เมืองหลวง ฯ
    o ปู่ดูปู่ว่าพ้นแรงนัก แม่ฮา
เทพดาสิทธิศักดิ์ท่านใช้
ผีสางสุรารักษ์เราพ่าย หนีนา
ยาท่านเติมมาให้เสื่อมข้างยาเรา ฯ
    o ที่สู้ดูที่สิ้นจักกัน แลนา
ทุกเทพผีสางสรรพ์พ่ายแพ้
ยังยาหยูกทุกอันเราเสื่อม ไปนา
มนต์แลยาจักแก้ท่านได้ฉันใด ฯ
    o ปรานีออกท้าวราชมารดา ท่านนา
ฟังเร่งแสนโศกาหมื่นไหม้
น้ำตาบ่เสบยตาแถวถั่ง ลงนา
ไห้บ่รู้กี่ไห้แหบแห้งหัวใจ ฯ

ร่าย
   o ผีภายในแล่นออก แลนา
ผีภายนอกแล่นเข้า แลนา
เทพดาปู่เจ้าสั่ง แลนา
มาทำดั่งปู่สอน แลนา
ให้ย่อหย่อนทุกสิ่ง แลนา
จึ่งให้สารไปกล่าว แลนา
จึ่งให้ข่าวไปถึง แลนา
สมิงพรายผู้เถ้า แลนา
ปู่เจ้าฟังแล้วไส้ แลนา
ปู่จึ่งใช้สลาเหิร แลนา
เดิรเวหาไปสู่ แลนา
ตกลงอยู่รคน แลนา
ปนหมากเสวยท่านไท้ แลนา
ครั้นท่านได้หยิบเสวย แลนา
บนานเลยลอราช แลนา
ใจจะขาดรอนรอน แลนา
ถึงสายสมรพี่น้อง คิดบลุเลยข้อง ขุ่นแค้นอาดูร ฯ

พระลอคลั่ง


พระลอคลั่ง ครวญคร่ำร่ำสู่สรอง

    พระลอปดพระมารดาขอไปเที่ยวป่า แต่พระมารดารู้ทัน ไม่ให้ไป พระลอก่นแต่ทุกข์ถึงคลั่งเพ้อ
เหล่าอำมาตย์มนตรีแนะให้แต่งสารไปสู่ขอพระเพื่อนพระแพง แต่พระลอดึงดื้อจักไปเอง
    เหตุการณ์แลการต่อถ้อยของพระลอกับพระมารดาในช่วงนี้ เปนอีกตอนหนึ่ง ที่แต่งไว้ได้น่าอ่านนัก

________________________________


นางเมืองนั่งแนบเฝ้า จอมกษัตริย์... พระราชชนนีเล้า ลูบไล้โลมขวัญ

โคลง ๔
    o ท้าวทูลธิราชไท้ ชนนี
ไหว้บาทบงกชศรีใส่เกล้า
ข้าพระอยู่มามีใจเหนื่อย พระเอย
จักใคร่ลาพระเจ้าเที่ยวเหล้นพนาสนฑ์ ฯ
    o ออกท้าวฟังลูกไท้ทูลลา ท่านนา
เจ้าแม่เปนใดนาดั่งนี้
มดหมออยู่รักษาสงวนราช นะพ่อ
สุดกำลังเขาชี้ยากแท้ทุกอัน ฯ
    o ผีสางเขาส่งซ้ำเติมมา มากนา
มนตรมายายาหยูกซ้ำ
วันใดราชลีลายกย่าง ไปนา
อกแม่ผอมไข้ขว้ำหล่มหล้มพระองค์ ฯ
    o พระลอลาบ่ได้ทนทุกข์ อยู่นา
บัดนั่งบัดนอนลุกละห้อย
ไอศวรรย์บ่เปนสุขเสวยโศก ไส้นา
โหยคนึงเสน่ห์สร้อยบ่ได้สร่างเสบย ฯ
    o นางเมืองนั่งแนบเฝ้าจอมกษัตริย์
ถนอมบาทบงกชรัตน์ใส่เกล้า
พระสนมรำเพยพัดไกวแกว่ง วีนา
พระราชชนนีเล้าลูบไล้โลมขวัญ ฯ
    o พระลอบสร่างเศร้าศรีหมอง อยู่นา
หลับลเมอหาสองหนุ่มหน้า
เคลิ้มไคล้หวาดใจปองปองไป่ ลุเลย
คิดคนึงโอ้อ้าใคร่กลั้นใจตาย ฯ
    o ตื่นขึ้นวอนว่าข้าจักไป
ประพาสชมไพรพลางไล่ช้าง
ชมพนมพนาไลยพลางไล่ มฤคนา
ชมป่าดงพงกว้างเถื่อนถ้ำสระศรี ฯ
    o ออกท้าวฟังลูกไท้ปรารมภ์ อยู่นา
ปากว่าจะไปชมช่อไม้
ครั้นไปจะไปสมสองนาฎ แลนา
ใส่เล่ห์วอนไจ้ไจ้จักห้ามฉ้นใด ฯ
    o หาโหรหาถ้วนมิ่งมนตรี
หาปู่สิทธิไชยลี-ลาศเต้า
แถลงคำแก่นกษัตรีย์ ทุกสิ่ง แลนา
โหรว่าจักห้ามเจ้าแผ่นหล้าฤๅฟัง ฯ
    o สิทธิไชยทูลแด่เจ้าจอมกษัตริย์
แม้นเทพมาทัดทัดบ่ได้
มนตรีว่าเห็นขัดทุกสิ่ง แลนา
จักส่งสารถึงไท้สืบสร้องกลความ ฯ

โคลง ๓
    o ธขอบคำความมนตรีกลกล่าวดีชอบแท้
แก้อื่นบได้แก้ดั่งนี้เห็นควร ฯ

โคลง ๒
    o จึ่งเสด็จยวรยาตรเต้ากล่าวแก่พระลอเจ้า
พ่อเฮ้ยปรานีแม่รา ฯ

ร่าย
    o แม่ฟังคำพ่อว่า ใคร่เล่นป่าชมเขา แม่เดาใช่คำจรึง พ่อคำนึงอื่นไส้ พระบอกจงจริงให้ แม่รู้เต็มใจ หนึ่งรา ฯ

โคลง ๒
    o ข้ารำพึงอื่นแท้จะบอกความจริงแล้
พระห้ามขัดใจลูกนา ฯ
    o สิ่งใดพอใจแก้วยังห่อนฤๅให้แคล้ว
ขัดข้องใจขุนแม่นา ฯ
    o เปนตามความชอบแล้วจ้กแต่งตามใจแก้ว
ก่ำพร้าฤๅขืนอื่นเลย ฯ
    o พระเอยหัวใจข้าคิดใคร่ไปเห็นหน้า
เพื่อนไท้แพงทอง ฯ 
    o ความปองลูกบ่ได้บร้างเห็นหน้าไท้
ธิราชแล้นะหัวลูกเอย ฯ
    o ลาบัวบาทเจ้าหล้าไปสู่สองแล้วข้า
จึ่งผ้ายคืนมา ฯ 



เนื้อสู่เสือฤๅเสือ  จักไว้..     บรอดเลยราชา  อย่าผ้าย

โคลง ๔
    o เจ้าไปแล้วเจ้าจักคืนเมือ ลูกเอย
เนื้อสู่เสือฤๅเสือจักไว้
ฟังคำพ่อคิดเหลือเหลือที่ คิดนา
คิดบ่ได้ล้วนได้แต่ร้อนฤๅเสบย ฯ
    o โดยธคิดชอบถ้อยคลองความ
จักแต่งไปสู่ถามพี่น้อง
จักรับพงางามสองสู่ พระนา
ได้ง่ายฤๅขัดข้องเท่าเส้นยองใย ฯ
    o ดำริห์โดยราชนี้เยียวนาน
เยียวพ่อสองเยาวมาลย์ห่อนให้
ทางไกลเที่ยวทูลสารยลยาก พระเอย
ข้าพระไปเองได้ง่ายแท้ทุกอัน ฯ
    o พ่อไปแล้วนะเจ้าคืนมา รอดฤๅ
บรอดเลยราชาอย่าผ้าย
ยาอีกสิ่งมนตราคมยิ่ง ยานา
ผีก็ร้ายคนร้ายรอดได้กลใด ฯ
    o เมืองเราอุบาทว์ร้ายแรงนัก ลูกเอย
เขาส่งผีสางศักดิ์ข่มแล้ว
ฤๅบาปิ่นไตรจักรจักรอด ฤๅพ่อ
หล้มแผ่นดินหล้มแก้วแม่หล้มไอศวรรย์ ฯ
    o รอยท้าวทูลบาทเบื้องบุญขจร
พระปู่เขาเรารอนขาดเกล้า
เขาคุมเคียดจักหลอนทำโทษ แทนนา
ฤๅพ่อจักไปเข้าสู่เงื้อมมือเข็ญ ฯ
    o ถึงกรรมจักอยู่ได้ฉันใด พระเอย
กรรมบ่มีมีใครฆ่าข้า
กุศลส่งสนองไปถึงที่ สุขนา
บาปส่งจำตกช้าช่วยได้ฉันใด ฯ
    o ผิไปถึงแล้วและถึงกรรม์ ก็ดี
ตกนรกแสนศัลย์หมื่นไหม้
เสวยสุขโสดเสวยสวรรค์เพราะอยู่ ก็ดี
บอยู่เลยลาไท้ธิราชแล้วจักไป ฯ

________________________________

    เนื้อเรื่องในช่วงนี้ ตั้งแต่ปู่เจ้ารู้ว่าทำลายสิ่งคุ้มกันได้แล้วจึงใช้"สลาเหิน" ไปจนตอนพระลอดึงดื้อจะไปเองให้ได้
มีผู้เอาไปทำบทร้องเพลงไทยเดิมประเภท "ตับเรื่อง" ชื่อ "ตับพระลอ" แต่ที่ข้าพเจ้าฟังอยู่เปนของกรมศิลปากร ใช้ชื่อว่า "ตับพระลอคลั่ง" ทั้งการร้องแลทำนองเพลง ไพเราะกินใจยิ่งล้ำ
    อีกเพลงหนึ่งคือ "ลาวสวยรวย"


________________________________




ตับพระลอคลั่ง
(เริ่มเรื่องตั้งแต่ปู่เจ้าสมิงพรายรู้ว่าผีเมืองสรวงพ่ายแล้ว ไปจนถึงพระลอจะไปสู่สรองให้จงได้)

  "ฝ่ายสมิงยินแจ้งแห่งคำผี เคยยินดีสมมาดปรารถนา
มนต์พ่อปู่เสพประสิทธิ์วิทยา ใช้สลาเหินเร่ขึ้นเมฆี
ลอยลงตรงอาสน์ราชประทับ พลัดตกปับลงพานหมากพระศรี
พระโอษฐ์เปรี้ยวเสียวกระสันขึ้นทันที หยิบพระศรีเสวยยันสั่นพระองค์

  พระเริ่มในพระทัยป่วนหวนระลึก ให้รู้สึกเหลวไหลพระทัยหลง
เห็นเหมือนเพื่อนแพงมาแฝงองค์ แทบจะตรงเข้าประโลมโฉมสุดา
หายวับกลับนึกรู้สึกพระสติ พระจึงตริตรองเล่ห์เสน่หา
จะตามไปให้ประสบพบพา พระมารดาคงจะห้าม ไม่ตามใจ
พึงทูลปดลดเลี้ยวว่าเที่ยวป่า หากจะว่าตอแหลพอแก้ไข
ถึงจะรู้แน่ชัดในหทัย ก็อย่าให้ออกจากปากของเรา
จึงทูลสารมารดาว่าข้าบาทขอลาองค์มาตุราชไปเที่ยวเขา
ชมโคถึกมฤคาพนาเนา พอบรรเทาอารมณ์ได้ชมเชย

(หญิงร้อง)  พระชนนีดีใจเห็นได้เค้า
พระชนนีดีใจเห็นได้เค้า จึงปลอบเล้าโลมพระลอว่าพ่อเอ๋ย
บอกมารดาว่าพระทัยไม่เสบย
บอกมารดาว่าพระทัยไม่เสบย ขอลาเลยชมดงเล่นพงไพร
แม่นึกแคลง แคลงจิตคิดไปเที่ยว
แม่นึกแคลง แคลงจิตคิดไปเที่ยว เกรงจะเลี้ยวหลงชิดพิสมัย
บอกแม่แท้จริงทุกสิ่งไป
บอกแม่แท้จริงทุกสิ่งไป ให้แม่ได้ทราบเสียบ้างคลางจางจินต์

  ฟังคำงามขำจึงเอ่ยร่ำไข ฟังคำงามขำจึงเอ่ยพร่ำไข
อยากจะไปประสบสองแม่น้องหญิง อยากจะไปประสบสองแม่น้องหญิง
เยี่ยมแม่เพื่อนเยือนแม่แพง จึงแจ้งจริง
ถ้าขืนนิ่งนอนเปล่า เอย สูเพื่อนเอย ยิ่งเศร้าใจ
(หญิงรับ) (เอยเจ้าสู เจ้าสูเพื่อนเอย
เอยเจ้าสู เจ้าสูเพื่อนเอย อกพระลอไม่เสบย อยากจะไปเชยสองนารี)
ขอลาบาทมาตตุรงพระทรงลักษณ์ ขอลาบาทมาตตุรงพระทรงลักษณ์
ช่วยชูฟักชีวิตที่คิดไว้ ช่วยชูฟักชีวิตที่คิดไว้
จะมาหาพระเกิดกำเหนิดเกิดกาย มิได้หน่ายแหนงคุณ
เอ๋ย เจ้าสูเพื่อนเอย ที่จุนเจือ
(เอยเจ้าสู เจ้าสูเพื่อนชัง
เอยเจ้าสู เจ้าสูเพื่อนชัง อกพระลอแทบจะพังคลุ้มคลั่งบ่เสบย)

(หญิง) ซักทางตามพระลูกผูกวิตก นางขอดอกโหยไห้อาลัยเหลือ
จากเขตประเทศสถานทิ่งหว่านเครือไปแนบเนื้อนุชนางต่างนคร
เขาก็เป็นจอมนิเวศน์เกศกษัตริย์ จะประหวัดลอบชมสมสมร
เห็นยากล้นคณนาแสนอาวรณ์ แม่ทุกข์ร้อนคิดเห็นไม่เป็นการ

  เมื่อเอยเมื่อนั้น พระลอดิลกเลิศงามเฉิดฉันท์
(หญิงรับ) (เอย เอ๋ยช่ออัญชัน พระลอโศกศัลย์พระทัยไม่เสบย
เอ๋ยช่ออัญชัน พระลอโศกศัลย์พระทัยไม่เสบย)
สถิตย์ยังห้องแก้วแพรวพรรณกับองค์ทรงธรรม์ชนนี
(เอย เอ๋ยช่อจำปี พระลอโศกีถึงเพื่อนแพงเอย
เอ๋ยช่อจำปี พระลอโศกีถึงเพื่อนแพงเอย)
ร้อนรุ่มกลุ้มใจพระทัยหลง งวยงงด้วยอำนาจเสน่ห์ผี
(เอย เอ๋ยช่อนนทรี เพื่อนแพงยอดชีวีของพี่นี้เอย
เอ๋ยช่อนนทรี เพื่อนแพงยอดชีวีของพี่นี้เอย)
ได้ยินเหมือนเพื่อนแพงแฝงอินทรีย์มาทูลภูมีให้ไคลคลา
(เอย เอ๋ยช่อจำปา พระลอจะลาจากเวียงแล้วเอย
เอ๋ยช่อจำปา พระลอจะลาจากเวียงแล้วเอย)"

________________________________



ลาวสวยรวย

  "เจ้าณหัวทรงพระโฉมเฉิดฟ้า ชื่นแหล่งหล้าละลานใจ
พระเลืองเลิศซะลอหน่อไท้ ยอดอาลัยแสนสาวสนมเธอ
ยลสาวสวรรค์ขวัญเนตรภูเบศร์บรรเลง เสนาะเพลงบรรเลอนฤโทษโสตเสนอ
สาวจับระบำ จับระบำบำเรอ
ไฉนพระลอราชเธอบ่มิเอื้อนออเออ เอาแต่เพ้อฤทัยถอน

  ฤทธิ์รูปลมโซรมพระผู้สึง รัดร้อนรึงกลไฟโหม
แว่วแต่ซอล่อคะนึง คะนึงโลม เห็นแต่โฉมเพื่อนแพงสองอร
มิไยเล่าโฉมเฉลาสาวสุรางค์เล่นดุริยางค์เย้ายวนรำฟ้อน
ถวายกร ถวายกรแย้มสรวล
ระริกระรื่นชื่นชวน โอ้พระเอยอักอ่วน บ่หวนจะหรรษา"




คือ "แม่"
พระนางบุญเหลือครวญคร่ำ พร่ำสอน อวยพรชัย

    ตอนนี้แสดงถึง ความเป็น แลสิ่งที่เรียกว่า "แม่" ได้สมบูรณ์นักแล้
เพื่อความต่อเนื่องของอารมณ์ จึ่งรวบไว้เสียในที่เดียว ทีเดียว
    - แต่จะทรงครรภ์ แลทำนุถนอมตราบเติบใหญ่กายา
    - ประจงเชยชมลูกยา
    - ย้ำสอนการครองตนครองคน ของกษัตริย์ขัตติยา
    - อวยพรให้ลุที่ปอง แลคืนรอดปลอดพ้นปวงโรคะภยา
________________________________

โคลง ๔
    o ทาบตีอกไห้พ่างเมือมรณ์
คำแม่สอนสุดสอนบ่ได้
รอยกรรมราชจักหลอนจักล่อ พระฤๅ
รู้เท่ารู้เว้นไว้กลัดกลุ้มมัวมน ฯ
    o จำศีลบท่อยถ้อยเจ็ดวัน ลูกเอย
คลังคลี่ทานผลปันเท่าฟ้า
ขอมีลูกใจธรรม์ชายชอบ ใจนา
แม่จึ่งได้เจ้าหล้าแม่แล้สุดใจ แม่เอย ฯ
    o สิบเดือนอุ้มท้องพระลอลักษณ์
สงวนบ่ลืมตนสักหนึ่งน้อย
ตราบพระปิ่นไตรจักรเสด็จคลอด มานา
ถนอมอาบอุ้มค้อยค้อยลูบเลี้ยงรักษา ฯ
    o แลวันสามคาบป้อนเปนนิตย์
บมิให้ใครทำผิดแผกเจ้า
แสนสงวนคู่ชีวิตฤๅใคร่ กลายเลย
เทียรผดุงคุ้งเท้าตราบรู้เสวยเอง ฯ
    o บัญจงกับเข้าแต่งของเสวย
บมิได้เลินเล่อเฉยหนึ่งน้อย
สรรพเครื่องพระลูกเฮยไตรตรวจ แต่งนา
บวางใจกึ่งก้อยแก่ผู้ใดทำ ฯ
    o แต่น้อยแม่พร่ำเลี้ยงรักษา พ่อนา
จงเจริญชนม์มาตราบได้
สมบัติผ่านภูวดาถวัลยราช
ฤๅพ่อจำจากให้แม่นี้ตรอมตาย ฯ
    o คงชีพหวังได้พึ่งภูมี พ่อแล
ม้วยชีพหวังฝากผีพ่อได้
ดังฤๅพ่อจักลีลาจาก อกนา
ผีแม่ตายจักได้ฝากให้ใครเผา ฯ
    o สุดใจสุดแม่ห้ามภูธร
สอนบ่ฟังแม่สอนจักเต้า
หนักใจหนักอาวรณ์ทุกข์ใหญ่ หลวงนา
แม่อยู่ตั้งแต่เศร้าโศกร้อนฤๅเสบย ฯ

โคลง ๔
    o ลูกเอยจากแม้โอ้กรรมใด นาพ่อ
ตั้งแต่คิดเด็จไปสู่สร้อย
แม่เดียวอยู่อาไลยทนเทวษ แลนา
มาแม่จะชมน้อยหนึ่งให้คลายใจ ฯ
    o ชมปรางชมผากเผ้าริมไร เกศนา
เชยปากตาตรูไตรเพริศพริ้ง
ชมพักตรดั่งแขไขขวัญเนตร
บพิตรพ่องามสิงคลิ้งจูบแก้มเชยกรรณ ฯ
    o จูบนาสิกแก้วแม่หอมใด ดุจนา
จูบเคียงคางคอใจจักขว้ำ
จูบเนื้อจูบนมใสเสาวภาคย์ พระเอย
จูบไหล่หลังอกซ้ำจูบข้างเชยแขน ฯ
    o จักเชยพระลูกถ้วนสรรพางค์
พระลูกประนมกรพลางจึ่งพร้อง
พระควรจูบแต่กลางกระหม่อม ไส้นา
แก้มเกศพระเจ้าต้องสั่งข้าพระควร ฯ
    o ลูกรักแก้วแม่เอ้ยปรานี แม่รา
พระบาทบงกชศรีใส่เกล้า
ฤๅบาปิ่นภูมีทัดแม่ ไยพ่อ
ขอจูบบัวบาทเจ้าสั่งเจ้าจอมใจ ฯ
    o พระรักพระว่าไว้เหนือหัว
ข้าบาทบงกชกลัวบาปได้
พระคุณโปรดเปนตัวสอนสั่ง มานา
ข้าไป่แทนคุณไท้เท่าเส้นใยยอง ฯ
    o รอยกรรมจักจากเจ้าจอมกษัตริย์
รอยบาปเพรงจำพลัดออกท้าว
พระคุณไป่แทนขัดใจดั่ง นี้นา
ยาหยูกเขาโน้มน้าวลูกให้ใหลหลง ฯ

ร่าย
    o เมื่อนั้นอนงคเทพี ชนนีนาฎราชรันทด สลดหฤทัยดั่งจะหว่า ท้าวธก็ว่าเจ้าลอลักษณ์ ลูกรักเจ้าแม่นา รักยิ่งตายิ่งตัว รักยิ่งหัวยิ่งชีพ แต่นี้จอมทวีปแม่จะจาก พรากแม่พรากพระบุรี ศรีกษัตริย์มีเจ็ดสิ่ง พระมิ่งแม่จงจำ ยำคำแม่อย่าคลา รีตท้าวพระยาอย่าคลาด อย่าประมาทลืมตน อย่ารคนคนเท็จ ริรอบเสร็จจึ่งทำ คิดทุกคำจึ่งออกปาก อย่าให้ยากแก่ใจไพร่ ไต่ความเมืองจงตรง ดำรงพิภพให้เย็น ดับเข็ญนอกเข็ญใน ส่องใจดูทุกกรม อย่างมชมความเท็จ ริรอบเสร็จเกื้อทางธรรม์ ทีจะกันกันจงหมั้น ทีจะคั้นคั้นจงเปนกล ส่องต้นหนคนใช้ เลือกหาใจอันสัตย์ ดัดมนตรีโดยยุกติ์ ปลุกใจคนให้หาญ ผลาญเพรียงไพร่เพรียงเมือง อาญาเรื่องเรื้อยราษฎร์ กันนิกรอาจเกื้อไพรี ดับกลีอย่าให้ลุก อย่าชิงสุกก่อนห่าม อย่าล่ามม้าสองปาก อย่าลากพิษตามหลัง อย่าให้คนชังลักแช่ง แต่งคนให้คนรัก ชักชวนคนสู่ฟ้า เบื้องหน้าเทพยอยศ จงปรากฎชอบแล้ว อย่าได้แคล้วรำพึง คำนึงอย่ารู้มลาย จงอย่าหายยศพ่อ ต่อม้วยฟ้าหล้าสวรรค์ กัลปประลัยอย่ารู้ลาญ ภูบาลเจ้าจงจำ ตามคำแม่โอวาท พ่อสุดสวาทแก่แม่เฮย จงสวัสดิ์แก่เจ้าเทอญ ฯ

โคลง ๔
    o จงเจริญศรีสวัสดิ์เรื้องเดชา
ทุกข์โศกโรคไภยาอย่าพ้อง
ศัตรูหมู่พาลาพาลพ่าย ฤทธิ์พ่อ
เสวยสุขอย่าเคืองข้องขุ่นแค้นอารมณ์ ฯ
    o ขอลุสมสบสร้อยสองนาง
ขออย่าลุเล่ห์ทางเสน่ห์นั้น
ขอคิดอย่าใจจางคำแม่ สอนนา
ขอพ่อเร็วคืนกั้นขอบแคว้นไกรกรุง ฯ
    o ขอฝากฝูงเทพไท้ภูมินทร์
อากาศพฤกษาสินธุ์ป่ากว้าง
อิศวรนรายณ์อินทร์พรหมเมศ ก็ดี
ช่วยรักษาเจ้าช้างอย่าให้มีไภย ฯ
    o ได้คืนชีวิตเจ้าจอมกษัตริย์
จักแต่งธงธวัชฉัตรเพริศแพร้ว
เทียนทองระย้ารัตนงามชื่น ตาแฮ
เป็ดไก่บายศรีแก้วแต่งแก้สบสถาน ฯ

โคลง ๒
    o ท้าวฟังสารท่านไท้บังคมก้มกราบไหว้
รับถ้อยคำสอน ฯ 
   o รับพรใส่เศียรไว้แก้เกศเช็ดบาทไท้
ท่านท้าวชนนีท่านนา ฯ
    o กรชลีเหนือเกล้าลาสมเด็จท้าวเจ้า
สู่ท้องโรงธาร ฯ 

________________________________


(อ่านต่อ)