พระลอตามไก่
พระลอตามไก่
พระเพื่อนพระแพงเห็นช้า ให้ไปเร่งปู่ ปู่จึงเรียกผีลงสิงไก่ ใช้ให้ไปล่อนำทางพระลอมาโดยพลัน
พระลอตามไก่จนเข้าเขตเมือง พักคืนหนึ่ง จวบรุ่งขึ้นอีกวัน ครันลุสวนร้างไม่ห่างอุทยานของพระเพื่อนพระแพง พระลอปลอมเปนพราหมณ์นาม ศรีเกศ ส่วนนายแก้วแลนายขวัญ เปลี่ยนนามเรียกขานเปน นายราม นายรัตน์
โคลง ๔
o เมื่อนั้นสองราชไท้ | ธิดา |
สองอยู่คอยหนหา | ท่านไท้ |
พี่นางรื่นโรยรา | ช้าไป่ มาเลย |
รักเร่งวานไปไหว้ | ปู่เจ้าเราเตือน ฯ |
o ข้าไปเตือนปู่เจ้า | จอมผา แม่ฮา |
ปู่ว่าพระลอมา | ฝั่งน้ำ |
กาหลงฝ่ายแดนรา- | ชาคร่ำ ครวญนา |
มาจะให้ไปซ้ำ | ชักท้าวเสด็จพลัน ฯ |
ร่าย
o ปู่กระสัลถึงไก่ไพรพฤกษ์ ปู่ลำฦกไก่ไก่ก็มา บรู้กี่คณากี่หมู่ ปู่เลือกไก่ตัวงาม ทรงทรามไวยทรามแรง สร้อยแสงแดงพพราย ขนเขียวลายยยับ ปีกสลับเบญจรงค์ เลื่อมลายหงส์สิบบาท ขอบตาชาดพพริ้ง สิงคลิ้งหงอนพรายพรรณ ขันขานเสียงเอาใจ เดือยงอนใสสีระรอง สองเท้าเทียมนพมาศ เพียงฉลุชาดทารง ปู่ก็ใช้ผีลงแก่ไก่ ไก่แก้วไซร้บมิกลัว ขุกผกหัวองอาจ ผาดผันตีปีกป้อง ร้องเรื่อยเฉื่อยฉาดฉาน เสียงขันขานแจ้วแจ้ว ปู่ก็สั่งแล้วทุกประการ มินานผาดโผนผยอง ลงโดยคลองบหึง ครั้นถับถึงพระเลืองลอ ยกคอขันขานร้อง ตีปีกป้องผายผัน ขันเอื้อยเจื้อยไจ้ไจ้ แล้วไซ้ปีกไซ้หาง โฉมสำอางสำอาจ ท้าวธผาดเห็นเปนตระการ ภูบาลบานหฤไทย งามพอใจพอตา มิทันทาธารทำรง ทรงมงกุฎภูษาสรรพ จับพิไชยอาวุธราชพล บันดลธลุกไล่ หวังได้ไก่ตัวงาม ยกทัพตามรอมราช ครั้นคลาศไก่อยู่ท่า เห็นธช้าไก่ขันเรียก ไก่กระเหวียกตาดู ครั้นภูธรจะทัน ไก่ค่อยผันค่อยผาย ระร่ายรายตีนเดิร ดำเนิรหงส์ยกย่าง ครั้นเห็นห่างไก่หยุด ครั้นจะสุดแดนป่า ครั้นจะผ่าแดนบ้าน ไก่ทำคร้านมารยา เห็นไก่ช้าธก็สราว ไก่เหิรหาวหายเนตร ภูเบตร์ดูอับทิศ บพิตรคิดพระองค์ โอ้กูมาหลงแก่ไก่ ไก่ผีไขว่เอากู ท้าวธเหลียวดูพี่เลี้ยง สองพี่กล่าวคำเกลี้ยง ถี่ถ้วนทั้งมวล ฯ
ร่าย
o แต่นี้ควรระมัด ประหยัดอย่าลืมตน บอกทุกคนทุกผู้ ให้รู้แล้วจึ่งไป คลาไคลถึงบ้านมิตร เขาสกิดกันบอก ชาวบ้านนอกมาไหว้ อันเชิญไท้ธเข้าสู่ อยู่ณที่ควรเสด็จ เสร็จเขาถวายโภชนาหาร เชิญธสำราญคืนหนึ่ง ซึ่งไว้นั้นสิบคน ถึงตำบลบ้านหน้า ไว้คนห้าแลช้าง ฝ่ายข้างโดยเสด็จไท้ นับถ้วนได้สิบห้า หน้าโน้นไว้สิบคน ถึงตำบลหนึ่งเล่า แต่สวนเปล่าบมีคน พฤกษาสนลำเลือน มีเรือนเปล่าสงัด เขาเชิญกษัตริย์อาไศรย บมิไกลสวนอ่อนไท้ เขาประนมมือไหว้ นั่งเฝ้าเรียงรัน ฯ
ร่าย
o เขาถวายคำนัลคำนับ สำรับโภชนาหาร น้ำอบธารสรงเสวย ฟูกผ้าเขนยสอาด ผ้าไหมลาดปูกรอง ถามสองนายทุกประการ เครื่องภูบาลแต่งเสร็จ ส่วนสมเด็จนฤเบศร์ ท่านแปรเพศเปนพราหมณ์ ทรงนามเจ้าสรีเกศ ใคร่เห็นประเทศมาชม มาแต่สยมภูวนาถ สองนายชาติคฤหัสถ์ ชื่อนายรัตน์นายราม ปรามกันทั่วทุกคน อย่าลืมตนลืมปาก เพื่อเหตุฝากความรัก เขาชักเชิญสองนายและไพร่ ไปล่ไปยังเหย้าเรือน เลือนอาหารเล่าเข้า เขาว่าเชญยชาวเจ้า พี่น้องมาเอา ฯ
ในตอนปู่เจ้าสมิงพรายเลือกไก่นี้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ได้ทรงนำโครงเรื่องมานิพนธ์เป็นบทละครพันทาง ให้ชื่อว่า "ระบำไก่" โดย เจ้าจอมมารดาเขียนในรัชกาลที่ 4 เป็นผู้ประดิษฐ์ท่ารำ โดยนำท่าฟ้อนของภาคเหนือมาผสมกับท่ารำของละครหลวง เนื้อร้องดัดแลงมาจากส่วนที่เปนร่ายข้างต้น จับความแต่นางโรย นางรื่น ไปเร่งปู่เจ้าสมิงพราย จนไก่ไปถึงยังพระลอ
แล้วต่อจากนั้น มีอีกชุดหนึ่ง ชื่อ "พระลอตามไก่" ซึ่ง พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงนิพนธ์เนื้อร้องนำมาบรรจุในเพลงเชิดฉิ่ง ซึ่งพระประดิษฐ์ไพเราะ (มี ดุริยางกูร) เป็นผู้แต่งถวายพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรในรัชกาลที่ 4
ระบำไก่ (ปู่เจ้าเรียกไก่)
"มาจะกล่าวเอ๋ยบทไปถึงปู่เจ้าจอมเทวะสิงขร
สงสารเพื่อนแพงน้องสองบังอร เฝ้าอาวรณ์หวั่นคะนึงถึงพระลอ
ให้นางโรยนางรื่นขึ้นมาเร้า จำจะเอาไก่งามไปตามล่อ
ให้รีบมาเหมือนหวังไม่รั้งรอ จะได้พอใจปองสองอนงค์
ตริพลางทางปู่ยุรยาตร จากแท่นทิพวาสเรืองระหง
งามเฉกวชิรราชอาจองค์ เสด็จลงหน้าฉานธารเทวา
ปู่กระสันถึงไก่ในไพรพฤกษ์ ปู่รำลึกถึงไก่ ไก่ก็มา
บ่ฮู้กี่คณากี่หมู่ ปู่เลือกไก่ตัวงามทรงทรามวัยทรามแรง
(สร้อยแสงแดง)
สร้อยแสงแดงพะพรายขนเขียวลายระยับ ปีกสลับเบ็ญจรงค์ เลื่อมลายยงหงสบาท
ขอบตาชาดพะพริ้ง สิงคลิ้งหงอนพรายพรรณ ขานขันเสียงเอาใจ เดือยอ่อนใสสีลำยอง
สองเท้าเทียมนพมาศ ปานฉลุชาดทารงค์ ปู่กระสันให้ผีลง ผีก็ลงแก่ไก่
ไก่แก้วไซร้บ่มิกลัว ขุกผกหัวองอาจ ผาดผันตีปีกป้อง ร้องเรื่อยเฉื่อยฉาดฉาน
เสียงขันขานแจ้วแจ้ว ปู่สั่งแล้วทุกประการ บ่มินานผาดโผนผยอง โลดลำพองคะนองบ่หึง
มุ่งถับถึงพระเลืองลอ ยกคอขันร้อง ตีปีกป้องผายผันลั่นเรื่อยเจื้อยไจ้ไจ้
แล้วไซ้ปีกไซ้หางโฉมสำอางสำอาจ กรีดปีกวาดเวียนเย้าคอยล่อพระลอเจ้าจับต้องดำเนินแลนา"
พระลอตามไก่
"ท้าว ธ ผาดเห็นไก่ตระการ ภูบาลบานหฤทัย
งามพอใจพอตา
มิทันทาธารธำรง มิทันทาธารธำรง
ทรงมงกุฏ ทรงมงกุฏภูษาสรรพ
จับพิชัยอาวุธราชพล บัดดล ธ รุกไล่
หวังได้ไก่ตัวงาม
พี่เลี้ยงตามจอมราช พี่เลี้ยงตามจอมราช
ครั้นคลาด ครั้นคลาดไก่หยุดท่า
เห็น ธ ช้าไก่ขันเรียก ไก่กะเหวียกตาดู
ครั้นภูธระจะทัน
ไก่ค่อยผันค่อยผาย ไก่ค่อยผันค่อยผาย
ระร่าย ระร่ายส่ายตีนเดิน ดำเนินหงส์ยกย่าง
ครั้นเห็นห่างไก่หยุด
ครั้นจะสุดแดนป่า
ครั้นจะผ่าแดนบ้าน ครั้นจะผ่าแดนบ้าน
ไก่แกล้งคร้าน ไก่แกล้งคร้านมารยา
เห็นไก่ช้า ธ ก็สาว ทางยืดยาวย่นสั้น
เหย่าไหย่ไหย่ใกล้กระชั้น เหย่าไหย่ไหย่ใกล้กระชั้น
ไก่แกล้ง ไก่แกล้งกระเจิงโผ
ไก่แกล้ง ไก่แกล้ง กระเจิงโผ
ไก่เอยไก่แก้ว กล้าแกล้วกายสิทธิ์ฤทธิ์ผีสิง
เลี้ยวล่อลอราชฉลาดจริง เพราพริ้งหงอนสร้อยสวยสะอาง
ทำทีแล่นถลาให้คว้าเหมาะ ย่างเหยาะกรีดปีกไซร้หาง
ครั้นพระลอไล่กระชั้นกั้นกาง ไก่ขวัญหันห่างราชา
ฉับเฉียวเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน วนเวียนหลบเวิ้งเซิงพฤกษา
ขันเจื้อยเฉื่อยก้องห้องวนา
ทำท่าเยาะเย้ยภูมี"
ภาพประกอบ: ภาพเขียนสีน้ำมันฝีมือ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต
เจ้าของภาพ: อร่าม - สุวิมาลย์ ปัณณมณีโชติ
ผู้เอื้อเฟื้อสำเนาภาพ JPG: คุณกลีบลำดวน
"สระบัวยั่วยอพระลอลักษณ์ ใคร่เก็บฝักหักดอกออกอดสู"
ภาพประกอบ: ภาพเขียนสีน้ำมัน ฝีมือ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต
เจ้าของภาพ: คุณบุญชัย โฆสิตคุณ
ผู้เอื้อเฟื้อสำเนาภาพ JPG: คุณกลีบลำดวน
พระลอลอบเข้าอุทยานหลวงของพระเพื่อนพระแพง ชมนกชมไม้ เห็นสิ่งใดก็ให้นึกไปถึงพี่น้องสองศรี
ในตอนนี้ มีบทเพลงอยู่ในการแสดงเรื่องพระลอ ชุด "พระลอเข้าสวน" ๑ เพลง ชื่อเพลง "การะเกด" ใช้ทำนองเพลงไทยเดิม "ลาวเดินดง"
ในที่นี้จะยกจำเพาะเนื้อร้อง เพลง "การะเกด" มาไว้ก่อน ต่อเมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไปจนถึงตอน นายแก้วแลนายขวัญ กับนางรื่นแลนางโรย เสพสมพาสกัน อันเปนตอนที่สนุกนัก จึงจักบันทึกเพลง "พระลอเข้าสวน" โดยเต็มไว้
การะเกด (ลาวเดินดง)
การะเกดเหมือนเกศแก้วเกษา มะลุลีเหมือนบุบผาแม่เกี้ยวเกล้า
(สร้อย) คู่อ่อนท้าวเขืออะคร้าวงามเอย เพื่อนแพงทองเผือพี่ปองสมเอย
นางแย้มเหมือนแก้มแม่แย้มเย้า ใบโบกเหมือนเจ้าจะกวักกร (สร้อย)
คณานกแมกไม้เรียงรัน ร้องเรื่อยรับขวัญเหมือนเสียงสมร (สร้อย)
เห็นโนรีสาลิกาใคร่ว่าวอน ฝากอักษรถวายโน้มสองพธู (สร้อย)
สระบัวยั่วยอพระลอลักษณ์ ใคร่เก็บฝักหักดอกออกอดสู (สร้อย)
ผองภมรว่อนเฝ้าเคล้าเรณู เหมือนเย้ยภูธรระเหอยู่เอองค์ (สร้อย)
คะนึงนางพลางเสด็จลีลา แอบร่มพฤกษาสูงระหง (สร้อย)
สุคนธรสหอมหวนลำดวนดง เหมือนจะส่งกลิ่นถวายราชา (สร้อย)
ร่าย
o เขาเลี้ยงดูทุกคน โดยดำบลทุกแห่ง อยู่บัดแบ่งยามเย็น ท้าวธใคร่เห็นสวนน้องนาฎ พระบาทเสด็จบมิช้า เขาก็นำเจ้าหล้า ท่านท้าวเสด็จไป ฯ
โคลง ๒
o ข้ากระใดอยู่เฝ้า | บอกข่าวพระลอเจ้า |
สู่สร้อยสวนขวัญ ฯ | |
o ชวนกันไปนั่งไหว้ | เชิญบพิตรท่านไท้ |
พระพาสเหล้นอุทยาน ฯ | |
o ภูบาลบานหน้าไท้ | ชมดอกไม้ต้นไม้ |
ลูกไม้พอใจ | บารนี ฯ |
o เสด็จดูในแหล่งหล้า | แย้มโอษฐ์ปราไสอ้า |
ขอบน้ำใจสู | บารนี ฯ |
o สวนใครหนอใคร่รู้ | สวนสมเด็จท้าวชู้ |
ท่านแล้พระทอง | |
o จึ่งจำนองโคลงอ้าง | ถวายแด่บพิตรเจ้าช้าง |
ท่านผู้มีบุญ | แลนา ฯ |
โคลง ๔
o ข้าไหว้พระบาทผู้ | อุดม |
เชิญบพิตรเสด็จชม | ช่อไม้ |
อุทยานสำราญรมย์ | สองราช แลพ่อ |
สรรสนุกไม้ไหล้ | แหล่งเหล้นสองศรี ฯ |
o พระชมการะเกดแก้ว | หอมหา ยากนา |
หอมหื่นกลเกศา | รวดเร้า |
พระชมมุลิลา | ลานสวาท |
ชมดอกไม้เกี้ยวเกล้า | เพื่อนไท้แพงทอง ฯ |
o นางแย้มเหมือนแม่แย้ม | ยวนสมร |
ใบโบกกลกวักกร | เรียกไท้ |
ช้องนางคลี่สร่ายขจร | โบกเรียก พระฤๅ |
เชิญราชชมไม้ไหล้ | กิ่งก้มถวายกร ฯ |
o นกหกจับแมกไม้ | เรียงรัน |
ร้องรี่รับขวัญขวัญ | ท่านท้าว |
กระสากระสรวลศัลย์ | ถึงราช |
จับมสังแซ่งน้าว | คู่เคี้ยงเรียงรมย์ ฯ |
o แขกเต้าเต้นเต้าแขก | ขอรัก |
เรียกพระผู้จอมจักร | ปิ่นเกล้า |
สัตวาส่งเสียงชัก | เชิญราช แลพ่อ |
คล้าคู่คลึงคล้าเคล้า | ค่อยเคล้าคลอสมร ฯ |
o เชิญไท้ธิราชท้าว | ชมสระ |
ชมดอกบัวบานระดะ | คลี่คล้อย |
ปูปลาเต่าจราจระ | จรัลดาษ เดียรนา |
แมลงภู่คลึงเคล้าสร้อย | เสียดสร้อยเสาวคนธ์ |
โคลง ๒
o พระเสด็จจดลนั่งแล้ว | พระคำนึงน้องแก้ว |
เพื่อนไท้แพงทอง ฯ |
โคลง ๓
o สองนายเชิญธบรรทม | ค่ำแล้วลมลาดไม้ |
โหยละห้อยท้าวไท้ | ค่อยพร้องโคลงครวญ ฯ |
โคลง ๔
o สองอวรอรเพี้ยงชีพ | ชีพิต พี่เอย |
เรียมจากบุรีฤทธิ์ | รีบเต้า |
บ เห็นพงาผิด | ใจพี่ พระเอย |
โอ้คำนึงน้องเหน้า | คร่ำแค้นครวญสมร ฯ |
o ใฝ่ใคร่ดวงดอกสร้อย | เสาวคนธ์ |
รสลำดวนหอมกล | กลิ่นแก้ว |
พระพายรำเพยดล | แดคร่ำ ครวญนา |
เดือนส่องแล้วฟ้าแผ้ว | ไป่ผ้ายสมศรี ฯ |
o มลุลีหอมหื่นฟุ้ง | มลิวัน |
ปรูประยงคุ์หอมหรรษ์ | หื่นห้า |
หอมกลกลิ่นจอมขวัญ | ขวัญพี่ พระเอย |
หอมห่อนเห็นหน้าหน้า | ใคร่กลั้นใจตาย ฯ |
o หื่นหอมรสสร้อยเปล่า | แดดาย |
แดพิหคเหลือหลาย | แหล่งไล้ |
นกเอยส่งสารถวาย | ถึงนาฎ พระนา |
ให้พระนุชท้องไท้ | แม่รู้ข่าวเรียม ฯ |
o สาลิกาวานส่งสร้อย | สารกู หนึ่งรา |
แถลงแด่สองพธู | พี่น้อง |
ทรหนอยู่ทรหู | หาอ่อน อวรนา |
เห็นแต่นกหกร้อง | ร่ำร้องรนสมร ฯ |
o สัตวาวานช่วยร้อน | เร็วไป หนึ่งรา |
บอกข่าวพระลอไกล | กลิ่นชู้ |
เสด็จมาอยู่อาไศรย | สวนราช นี้นา |
ให้จงสองท้าวรู้ | ที่ร้อนแรมศรี ฯ |
o โนรีเร็วเร่งผ้าย | ผันผยอง หนึ่งรา |
ไปสู่มนเฑียรทอง | อ่อนไท้ |
ทูลสารอันเชิญสอง | กษัตริย์แม่ มานา |
มาระเมียรไม้ไหล้ | แหล่งเหล้นอภิรมย์ |
o ภูระโดกดุเหว่าร้อง | เสียงใส บารนี |
เสียงเสนาะเอาใจ | ใช่น้อย |
สูรักเร่งเร็วไป | ถึงอ่อน อวรนา |
เชิญแม่มาสวนสร้อย | สว่างร้อนใจเรียม ฯ |
o นกหกบินร่อนร้อง | ไปมา อยู่นา |
ซอนซอกจับพฤกษา | เสียดเร้น |
บทูลข่าวธิดา | ถวายแด่ เรียมเอย |
บ้างไต่ไม้บ้างเต้น | รี่ร้องจอแจ ฯ |
ร่าย
o พระลอเลงแลนก ฟังวิหคเปนดาย สองนายนวดพระบาท ถวายอภิวาทบังคม ทูลว่าอย่าปรารมภ์เดือดไหม้ พรุ่งจะสมน้องไท้ เพื่อนท้าวภิรมย์ ฯ
โคลง ๒
o เชิญธบรรทมแท่นแก้ว | จักจั่นเสียงแจ้วแจ้ว |
กล่อมท้าวสว่างรมย์ ฯ | |
o ลมขจรคันธดอกไม้ | ท้าวธคิดกลิ่นไท้ |
ออกท้าวทั้งสอง ฯ | |
o เดือนระรองส่องหล้า | พระจะเชยชมหน้า |
หนุ่มหน้าบัวศรี ฯ |