ลิลิตพระลอ: Feb 1, 2007

ลิลิตพระลอ

Name:
Location: Bangkok, Thailand

Thursday, February 1, 2007

พระลอตามไก่


ปู่เจ้าเรียกไก่
พระลอตามไก่

     พระเพื่อนพระแพงเห็นช้า ให้ไปเร่งปู่ ปู่จึงเรียกผีลงสิงไก่ ใช้ให้ไปล่อนำทางพระลอมาโดยพลัน
     พระลอตามไก่จนเข้าเขตเมือง พักคืนหนึ่ง จวบรุ่งขึ้นอีกวัน ครันลุสวนร้างไม่ห่างอุทยานของพระเพื่อนพระแพง พระลอปลอมเปนพราหมณ์นาม ศรีเกศ ส่วนนายแก้วแลนายขวัญ เปลี่ยนนามเรียกขานเปน นายราม นายรัตน์

________________________________

โคลง ๔
    o เมื่อนั้นสองราชไท้ธิดา
สองอยู่คอยหนหาท่านไท้
พี่นางรื่นโรยราช้าไป่ มาเลย
รักเร่งวานไปไหว้ปู่เจ้าเราเตือน ฯ
    o ข้าไปเตือนปู่เจ้าจอมผา แม่ฮา
ปู่ว่าพระลอมาฝั่งน้ำ
กาหลงฝ่ายแดนรา-ชาคร่ำ ครวญนา
มาจะให้ไปซ้ำชักท้าวเสด็จพลัน ฯ

ร่าย
     o ปู่กระสัลถึงไก่ไพรพฤกษ์ ปู่ลำฦกไก่ไก่ก็มา บรู้กี่คณากี่หมู่ ปู่เลือกไก่ตัวงาม ทรงทรามไวยทรามแรง สร้อยแสงแดงพพราย ขนเขียวลายยยับ ปีกสลับเบญจรงค์ เลื่อมลายหงส์สิบบาท ขอบตาชาดพพริ้ง สิงคลิ้งหงอนพรายพรรณ ขันขานเสียงเอาใจ เดือยงอนใสสีระรอง สองเท้าเทียมนพมาศ เพียงฉลุชาดทารง ปู่ก็ใช้ผีลงแก่ไก่ ไก่แก้วไซร้บมิกลัว ขุกผกหัวองอาจ ผาดผันตีปีกป้อง ร้องเรื่อยเฉื่อยฉาดฉาน เสียงขันขานแจ้วแจ้ว ปู่ก็สั่งแล้วทุกประการ มินานผาดโผนผยอง ลงโดยคลองบหึง ครั้นถับถึงพระเลืองลอ ยกคอขันขานร้อง ตีปีกป้องผายผัน ขันเอื้อยเจื้อยไจ้ไจ้ แล้วไซ้ปีกไซ้หาง โฉมสำอางสำอาจ ท้าวธผาดเห็นเปนตระการ ภูบาลบานหฤไทย งามพอใจพอตา มิทันทาธารทำรง ทรงมงกุฎภูษาสรรพ จับพิไชยอาวุธราชพล บันดลธลุกไล่ หวังได้ไก่ตัวงาม ยกทัพตามรอมราช ครั้นคลาศไก่อยู่ท่า เห็นธช้าไก่ขันเรียก ไก่กระเหวียกตาดู ครั้นภูธรจะทัน ไก่ค่อยผันค่อยผาย ระร่ายรายตีนเดิร ดำเนิรหงส์ยกย่าง ครั้นเห็นห่างไก่หยุด ครั้นจะสุดแดนป่า ครั้นจะผ่าแดนบ้าน ไก่ทำคร้านมารยา เห็นไก่ช้าธก็สราว ไก่เหิรหาวหายเนตร ภูเบตร์ดูอับทิศ บพิตรคิดพระองค์ โอ้กูมาหลงแก่ไก่ ไก่ผีไขว่เอากู ท้าวธเหลียวดูพี่เลี้ยง สองพี่กล่าวคำเกลี้ยง ถี่ถ้วนทั้งมวล ฯ

ร่าย
     o แต่นี้ควรระมัด ประหยัดอย่าลืมตน บอกทุกคนทุกผู้ ให้รู้แล้วจึ่งไป คลาไคลถึงบ้านมิตร เขาสกิดกันบอก ชาวบ้านนอกมาไหว้ อันเชิญไท้ธเข้าสู่ อยู่ณที่ควรเสด็จ เสร็จเขาถวายโภชนาหาร เชิญธสำราญคืนหนึ่ง ซึ่งไว้นั้นสิบคน ถึงตำบลบ้านหน้า ไว้คนห้าแลช้าง ฝ่ายข้างโดยเสด็จไท้ นับถ้วนได้สิบห้า หน้าโน้นไว้สิบคน ถึงตำบลหนึ่งเล่า แต่สวนเปล่าบมีคน พฤกษาสนลำเลือน มีเรือนเปล่าสงัด เขาเชิญกษัตริย์อาไศรย บมิไกลสวนอ่อนไท้ เขาประนมมือไหว้ นั่งเฝ้าเรียงรัน ฯ

ร่าย
     o เขาถวายคำนัลคำนับ สำรับโภชนาหาร น้ำอบธารสรงเสวย ฟูกผ้าเขนยสอาด ผ้าไหมลาดปูกรอง ถามสองนายทุกประการ เครื่องภูบาลแต่งเสร็จ ส่วนสมเด็จนฤเบศร์ ท่านแปรเพศเปนพราหมณ์ ทรงนามเจ้าสรีเกศ ใคร่เห็นประเทศมาชม มาแต่สยมภูวนาถ สองนายชาติคฤหัสถ์ ชื่อนายรัตน์นายราม ปรามกันทั่วทุกคน อย่าลืมตนลืมปาก เพื่อเหตุฝากความรัก เขาชักเชิญสองนายและไพร่ ไปล่ไปยังเหย้าเรือน เลือนอาหารเล่าเข้า เขาว่าเชญยชาวเจ้า พี่น้องมาเอา ฯ

________________________________

     ในตอนปู่เจ้าสมิงพรายเลือกไก่นี้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ได้ทรงนำโครงเรื่องมานิพนธ์เป็นบทละครพันทาง ให้ชื่อว่า "ระบำไก่" โดย เจ้าจอมมารดาเขียนในรัชกาลที่ 4 เป็นผู้ประดิษฐ์ท่ารำ โดยนำท่าฟ้อนของภาคเหนือมาผสมกับท่ารำของละครหลวง เนื้อร้องดัดแลงมาจากส่วนที่เปนร่ายข้างต้น จับความแต่นางโรย นางรื่น ไปเร่งปู่เจ้าสมิงพราย จนไก่ไปถึงยังพระลอ
     แล้วต่อจากนั้น มีอีกชุดหนึ่ง ชื่อ "พระลอตามไก่" ซึ่ง พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงนิพนธ์เนื้อร้องนำมาบรรจุในเพลงเชิดฉิ่ง ซึ่งพระประดิษฐ์ไพเราะ (มี ดุริยางกูร) เป็นผู้แต่งถวายพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรในรัชกาลที่ 4

ระบำไก่ (ปู่เจ้าเรียกไก่)

"มาจะกล่าวเอ๋ยบทไปถึงปู่เจ้าจอมเทวะสิงขร
สงสารเพื่อนแพงน้องสองบังอร เฝ้าอาวรณ์หวั่นคะนึงถึงพระลอ
ให้นางโรยนางรื่นขึ้นมาเร้า จำจะเอาไก่งามไปตามล่อ
ให้รีบมาเหมือนหวังไม่รั้งรอ จะได้พอใจปองสองอนงค์
ตริพลางทางปู่ยุรยาตร จากแท่นทิพวาสเรืองระหง
งามเฉกวชิรราชอาจองค์ เสด็จลงหน้าฉานธารเทวา

ปู่กระสันถึงไก่ในไพรพฤกษ์ ปู่รำลึกถึงไก่ ไก่ก็มา
บ่ฮู้กี่คณากี่หมู่ ปู่เลือกไก่ตัวงามทรงทรามวัยทรามแรง

(สร้อยแสงแดง)
สร้อยแสงแดงพะพรายขนเขียวลายระยับ ปีกสลับเบ็ญจรงค์ เลื่อมลายยงหงสบาท
ขอบตาชาดพะพริ้ง สิงคลิ้งหงอนพรายพรรณ ขานขันเสียงเอาใจ เดือยอ่อนใสสีลำยอง
สองเท้าเทียมนพมาศ ปานฉลุชาดทารงค์ ปู่กระสันให้ผีลง ผีก็ลงแก่ไก่
ไก่แก้วไซร้บ่มิกลัว ขุกผกหัวองอาจ ผาดผันตีปีกป้อง ร้องเรื่อยเฉื่อยฉาดฉาน
เสียงขันขานแจ้วแจ้ว ปู่สั่งแล้วทุกประการ บ่มินานผาดโผนผยอง โลดลำพองคะนองบ่หึง
มุ่งถับถึงพระเลืองลอ ยกคอขันร้อง ตีปีกป้องผายผันลั่นเรื่อยเจื้อยไจ้ไจ้
แล้วไซ้ปีกไซ้หางโฉมสำอางสำอาจ กรีดปีกวาดเวียนเย้าคอยล่อพระลอเจ้าจับต้องดำเนินแลนา"


________________________________

พระลอตามไก่

"ท้าว ธ ผาดเห็นไก่ตระการ ภูบาลบานหฤทัย
งามพอใจพอตา
มิทันทาธารธำรง มิทันทาธารธำรง
ทรงมงกุฏ ทรงมงกุฏภูษาสรรพ
จับพิชัยอาวุธราชพล บัดดล ธ รุกไล่
หวังได้ไก่ตัวงาม
พี่เลี้ยงตามจอมราช พี่เลี้ยงตามจอมราช
ครั้นคลาด ครั้นคลาดไก่หยุดท่า
เห็น ธ ช้าไก่ขันเรียก ไก่กะเหวียกตาดู
ครั้นภูธระจะทัน
ไก่ค่อยผันค่อยผาย ไก่ค่อยผันค่อยผาย
ระร่าย ระร่ายส่ายตีนเดิน ดำเนินหงส์ยกย่าง
ครั้นเห็นห่างไก่หยุด
ครั้นจะสุดแดนป่า
ครั้นจะผ่าแดนบ้าน ครั้นจะผ่าแดนบ้าน
ไก่แกล้งคร้าน ไก่แกล้งคร้านมารยา
เห็นไก่ช้า ธ ก็สาว ทางยืดยาวย่นสั้น
เหย่าไหย่ไหย่ใกล้กระชั้น เหย่าไหย่ไหย่ใกล้กระชั้น
ไก่แกล้ง ไก่แกล้งกระเจิงโผ
ไก่แกล้ง ไก่แกล้ง กระเจิงโผ

ไก่เอยไก่แก้ว กล้าแกล้วกายสิทธิ์ฤทธิ์ผีสิง
เลี้ยวล่อลอราชฉลาดจริง เพราพริ้งหงอนสร้อยสวยสะอาง
ทำทีแล่นถลาให้คว้าเหมาะ ย่างเหยาะกรีดปีกไซร้หาง
ครั้นพระลอไล่กระชั้นกั้นกาง ไก่ขวัญหันห่างราชา
ฉับเฉียวเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน วนเวียนหลบเวิ้งเซิงพฤกษา
ขันเจื้อยเฉื่อยก้องห้องวนา
ทำท่าเยาะเย้ยภูมี"


ภาพประกอบ: ภาพเขียนสีน้ำมันฝีมือ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต
เจ้าของภาพ: อร่าม - สุวิมาลย์ ปัณณมณีโชติ
ผู้เอื้อเฟื้อสำเนาภาพ JPG: คุณกลีบลำดวน


________________________________



พระลอชมสวนขวัญของสองสมร



"สระบัวยั่วยอพระลอลักษณ์ ใคร่เก็บฝักหักดอกออกอดสู"
ภาพประกอบ: ภาพเขียนสีน้ำมัน ฝีมือ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต
เจ้าของภาพ: คุณบุญชัย โฆสิตคุณ
ผู้เอื้อเฟื้อสำเนาภาพ JPG: คุณกลีบลำดวน

________________________________

     พระลอลอบเข้าอุทยานหลวงของพระเพื่อนพระแพง ชมนกชมไม้ เห็นสิ่งใดก็ให้นึกไปถึงพี่น้องสองศรี
     ในตอนนี้ มีบทเพลงอยู่ในการแสดงเรื่องพระลอ ชุด "พระลอเข้าสวน" ๑ เพลง ชื่อเพลง "การะเกด" ใช้ทำนองเพลงไทยเดิม "ลาวเดินดง"
     ในที่นี้จะยกจำเพาะเนื้อร้อง เพลง "การะเกด" มาไว้ก่อน ต่อเมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไปจนถึงตอน นายแก้วแลนายขวัญ กับนางรื่นแลนางโรย เสพสมพาสกัน อันเปนตอนที่สนุกนัก จึงจักบันทึกเพลง "พระลอเข้าสวน" โดยเต็มไว้


การะเกด (ลาวเดินดง)

การะเกดเหมือนเกศแก้วเกษา มะลุลีเหมือนบุบผาแม่เกี้ยวเกล้า
(สร้อย) คู่อ่อนท้าวเขืออะคร้าวงามเอย เพื่อนแพงทองเผือพี่ปองสมเอย
นางแย้มเหมือนแก้มแม่แย้มเย้า ใบโบกเหมือนเจ้าจะกวักกร (สร้อย)
คณานกแมกไม้เรียงรัน ร้องเรื่อยรับขวัญเหมือนเสียงสมร (สร้อย)
เห็นโนรีสาลิกาใคร่ว่าวอน ฝากอักษรถวายโน้มสองพธู (สร้อย)
สระบัวยั่วยอพระลอลักษณ์ ใคร่เก็บฝักหักดอกออกอดสู (สร้อย)
ผองภมรว่อนเฝ้าเคล้าเรณู เหมือนเย้ยภูธรระเหอยู่เอองค์ (สร้อย)
คะนึงนางพลางเสด็จลีลา แอบร่มพฤกษาสูงระหง (สร้อย)
สุคนธรสหอมหวนลำดวนดง เหมือนจะส่งกลิ่นถวายราชา (สร้อย)


________________________________

ร่าย
     o เขาเลี้ยงดูทุกคน โดยดำบลทุกแห่ง อยู่บัดแบ่งยามเย็น ท้าวธใคร่เห็นสวนน้องนาฎ พระบาทเสด็จบมิช้า เขาก็นำเจ้าหล้า ท่านท้าวเสด็จไป ฯ

โคลง ๒
    o ข้ากระใดอยู่เฝ้าบอกข่าวพระลอเจ้า
สู่สร้อยสวนขวัญ ฯ 
    o ชวนกันไปนั่งไหว้เชิญบพิตรท่านไท้
พระพาสเหล้นอุทยาน ฯ 
    o ภูบาลบานหน้าไท้ชมดอกไม้ต้นไม้
ลูกไม้พอใจบารนี ฯ
    o เสด็จดูในแหล่งหล้าแย้มโอษฐ์ปราไสอ้า
ขอบน้ำใจสูบารนี ฯ
    o สวนใครหนอใคร่รู้สวนสมเด็จท้าวชู้
ท่านแล้พระทอง 
    o จึ่งจำนองโคลงอ้างถวายแด่บพิตรเจ้าช้าง
ท่านผู้มีบุญแลนา ฯ

โคลง ๔
    o ข้าไหว้พระบาทผู้อุดม
เชิญบพิตรเสด็จชมช่อไม้
อุทยานสำราญรมย์สองราช แลพ่อ
สรรสนุกไม้ไหล้แหล่งเหล้นสองศรี ฯ
    o พระชมการะเกดแก้วหอมหา ยากนา
หอมหื่นกลเกศารวดเร้า
พระชมมุลิลาลานสวาท
ชมดอกไม้เกี้ยวเกล้าเพื่อนไท้แพงทอง ฯ
    o นางแย้มเหมือนแม่แย้มยวนสมร
ใบโบกกลกวักกรเรียกไท้
ช้องนางคลี่สร่ายขจรโบกเรียก พระฤๅ
เชิญราชชมไม้ไหล้กิ่งก้มถวายกร ฯ
    o นกหกจับแมกไม้เรียงรัน
ร้องรี่รับขวัญขวัญท่านท้าว
กระสากระสรวลศัลย์ถึงราช
จับมสังแซ่งน้าวคู่เคี้ยงเรียงรมย์ ฯ
    o แขกเต้าเต้นเต้าแขกขอรัก
เรียกพระผู้จอมจักรปิ่นเกล้า
สัตวาส่งเสียงชักเชิญราช แลพ่อ
คล้าคู่คลึงคล้าเคล้าค่อยเคล้าคลอสมร ฯ
    o เชิญไท้ธิราชท้าวชมสระ
ชมดอกบัวบานระดะคลี่คล้อย
ปูปลาเต่าจราจระจรัลดาษ เดียรนา
แมลงภู่คลึงเคล้าสร้อยเสียดสร้อยเสาวคนธ์

โคลง ๒
    o พระเสด็จจดลนั่งแล้วพระคำนึงน้องแก้ว
เพื่อนไท้แพงทอง ฯ 

โคลง ๓
    o สองนายเชิญธบรรทมค่ำแล้วลมลาดไม้
โหยละห้อยท้าวไท้ค่อยพร้องโคลงครวญ ฯ

โคลง ๔
    o สองอวรอรเพี้ยงชีพชีพิต พี่เอย
เรียมจากบุรีฤทธิ์รีบเต้า
บ เห็นพงาผิดใจพี่ พระเอย
โอ้คำนึงน้องเหน้าคร่ำแค้นครวญสมร ฯ
    o ใฝ่ใคร่ดวงดอกสร้อยเสาวคนธ์
รสลำดวนหอมกลกลิ่นแก้ว
พระพายรำเพยดลแดคร่ำ ครวญนา
เดือนส่องแล้วฟ้าแผ้วไป่ผ้ายสมศรี ฯ
    o มลุลีหอมหื่นฟุ้งมลิวัน
ปรูประยงคุ์หอมหรรษ์หื่นห้า
หอมกลกลิ่นจอมขวัญขวัญพี่ พระเอย
หอมห่อนเห็นหน้าหน้าใคร่กลั้นใจตาย ฯ
    o หื่นหอมรสสร้อยเปล่าแดดาย
แดพิหคเหลือหลายแหล่งไล้
นกเอยส่งสารถวายถึงนาฎ พระนา
ให้พระนุชท้องไท้แม่รู้ข่าวเรียม ฯ
    o สาลิกาวานส่งสร้อยสารกู หนึ่งรา
แถลงแด่สองพธูพี่น้อง
ทรหนอยู่ทรหูหาอ่อน อวรนา
เห็นแต่นกหกร้องร่ำร้องรนสมร ฯ
    o สัตวาวานช่วยร้อนเร็วไป หนึ่งรา
บอกข่าวพระลอไกลกลิ่นชู้
เสด็จมาอยู่อาไศรยสวนราช นี้นา
ให้จงสองท้าวรู้ที่ร้อนแรมศรี ฯ
    o โนรีเร็วเร่งผ้ายผันผยอง หนึ่งรา
ไปสู่มนเฑียรทองอ่อนไท้
ทูลสารอันเชิญสองกษัตริย์แม่ มานา
มาระเมียรไม้ไหล้แหล่งเหล้นอภิรมย์
    o ภูระโดกดุเหว่าร้องเสียงใส บารนี
เสียงเสนาะเอาใจใช่น้อย
สูรักเร่งเร็วไปถึงอ่อน อวรนา
เชิญแม่มาสวนสร้อยสว่างร้อนใจเรียม ฯ
    o นกหกบินร่อนร้องไปมา อยู่นา
ซอนซอกจับพฤกษาเสียดเร้น
บทูลข่าวธิดาถวายแด่ เรียมเอย
บ้างไต่ไม้บ้างเต้นรี่ร้องจอแจ ฯ

ร่าย
    o พระลอเลงแลนก ฟังวิหคเปนดาย สองนายนวดพระบาท ถวายอภิวาทบังคม ทูลว่าอย่าปรารมภ์เดือดไหม้ พรุ่งจะสมน้องไท้ เพื่อนท้าวภิรมย์ ฯ

โคลง ๒
    o เชิญธบรรทมแท่นแก้วจักจั่นเสียงแจ้วแจ้ว
กล่อมท้าวสว่างรมย์ ฯ 
    o ลมขจรคันธดอกไม้ท้าวธคิดกลิ่นไท้
ออกท้าวทั้งสอง ฯ 
    o เดือนระรองส่องหล้าพระจะเชยชมหน้า
หนุ่มหน้าบัวศรี ฯ 

________________________________

ศุภนิมิต


    พระลอฝัน ศุภนิมิต
     พระลอฝันดี แก้ว่าจะได้พบพระเพื่อน พระแพงเปนแน่แท้
________________________________

โคลง ๒
    o เชิญธบรรทมแท่นแก้วจักจั่นเสียงแจ้วแจ้ว
กล่อมท้าวสว่างรมย์ ฯ 
    o ลมขจรคันธดอกไม้ท้าวธคิดกลิ่นไท้
ออกท้าวทั้งสอง ฯ 
    o เดือนระรองส่องหล้าพระจะเชยชมหน้า
หนุ่มหน้าบัวศรี ฯ 

ร่าย
    o พระลอมีหฤทัย รไมยาภิรมย์ ชื่นชมคำพี่เลี้ยง สองพี่กล่าวกลอนเกลี้ยง กล่อมท้าวนิทรา ฯ

ร่าย
    o ข้าก็ซบหลับกับพระบาท พระลอราช ธ ก็ฝัน ทั้งนายขวัญนายแก้ว หลับแล้วฝันต่างต่าง พ่างพระบาทยุคล ตนท้าวธก็ตื่นตระบัด ดัดพี่เลี้ยงเจ้าหล้า บอกฝันพลันบช้า ช่วยแก้ ความฝัน ฯ



โคลง ๔
    o พี่ขวัญพี่แก้วพี่ชวนกัน ฟังรา
เขือกล่อมกูกูฝันดั่งนี้
ฝันทรงสังวาลย์วรรณนุชนาฎ นางงาม
สองอุรคะเกี้ยวกี้ตื่นขึ้นขวัญหาย ฯ
    o น้องฝันเห็นกอดแก้วกลอยใจ
ฝันว่าอ่อนเสด็จในแท่นแก้ว
มะเมอตื่นหลงใหลหาอ่อน อวรนา
ฝันว่าน้องต้องแร้วราคหมั้นตรึงสมร ฯ
    o  ฝันทรงภูษิตเจ้าใสสุทธิ์
พระเกศทัดธารบุษป์กลิ่นฟุ้ง
ไปทิศอุไทยอุตดมยิ่ง นั้นนา
ฝันว่าอ่อนเล่นถุ้งทั่วท้องสระศรี ฯ
    o หัตถ์ขวาฝันเคล้นดอกโกมล
กรกอดดอกจงกลฝ่ายซ้าย
ตะเพียนหวั่นไหวชลชมช่อน ไส้นา
ลิงโลดพรวนทองหว้ายหว่างสร้อยสระศรี ฯ

ร่าย
    o สองนายทายฝันไท้ ท้าวธจะได้ดั่งจินดา พระราชาอย่าเศร้า พรุ่งจักสมน้องเหน้า หน่อท้าวมีบุญ แลนา ฯ

โคลง ๔
    o นายแก้วทูลกล่าวแก้ความฝัน
ฝันราชชูชมจันทร์แจ่มฟ้า
แขสองส่องแสงพรรณทั้งคู่ งามนา
พระจะสมน้องหน้าหนุ่มหน้าบัวสมร ฯ
    o นายขวัญฝันไท้ดุจศศิธร
สาวเทพทูลบทจรกึ่งเกล้า
ฝันพระชื่นชมอรลุลาภ แลพ่อ
พระจะสมน้องเหน้าหน่อท้าวทันใจ ฯ

ร่าย
    o ในเมื่อข้าสองนาย ถวายซึ่งศุภนิมิต บพิตรหย่อนอารมณ์ ชมฝันสองพี่เลี้ยง ดุจดั่งสองเนื้อเกลี้ยง มากล่อมท้าว สว่างรมย์ ฯ

________________________________


พระเพื่อนพระแพงร้อนหทัยโหยหา
พี่เลี้ยงปลอบแลขับซอกล่อมนอน

________________________________

ร่าย
    o เอนดูอุดมดวงดอกไม้ สองเพื่อนไท้แพงกษัตริย์ เสด็จในรัตนบรรทม ปรารมภ์ใจอ้างว้าง กรกอดอกไห้ช้าง เพื่อชู้นานถึง ฯ

ร่าย
    o คิดคำนึงบลุ ทุเทาแก้มสร่ายเกศ สองเปนเทวษพิศวง หลงหาราชจะไจ้ ไห้บรู้กี่คาบ อาบไนยนามพุธารา โศกาดูรพิลาป ค่อยกระซาบคำเกลี้ยง แก่พี่เลี้ยงทั้งสอง ความเผือปองคลาศแคล้ว แม้บสมชู้แก้ว พรุ่งนี้เผือตาย ฯ

ร่าย
    o สองนางถวายบังคม ประนมยุคลนางนาฎ โลมสองราชธิดา ว่าสองพงาพระพี่ ใช่ที่พ้นกำหนด เชิญค่อยงดอยู่ถ้า มิร้างนานจักช้า ชู้ท้าวมาสม แม่แล ฯ

โคลง ๓
    o สองอย่าปรารมภ์กระสัลแม้มิวันพรุ่งเช้า
ลอราชจักเสด็จเต้าสู่สร้อยสวนขวัญ ฯ

ร่าย
    o ฉันใดพี่จึ่งรู้ ผู้ใดใครมากล่าว ข่าวบพิตรเจ้าหล้า เร็วพี่บอกอย่าช้า ท่านท้าวเสด็จมา แม่นฤๅ ฯ

ร่าย
    o สองราประนมมือสนอง ว่าพระทองแม่ณเกล้า ธผู้เถ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ ให้รู้นิมิตสกุณ อันเปนคุณเปนโทษ ทีนี้โสดเกษมศรี จักมีพลันบช้า ใจเผือข้าชื่นชม ดุจพระตนกลมเจ้าช้าง มาอิงอ่อนอ้อมข้าง สองอยู่เกล้าแก่ตา พี่นี้ ฯ

ร่าย
    o สองชายายินชอบ ขอบคำสองพี่นาง ควรไว้กลางกระหม่อม สองพี่ย่อมมีคุณ แก่เขือปุนเปรียบฟ้า เผือพี่น้องนี้ถ้า แต่ตั้งจะสนอง คุณเขือ ฯ

โคลง ๔
    o แต่น้อยสองพี่เลี้ยงสองเผือ
คุณพี่ทั้งสองเหลือที่อ้าง
ทีนี้โสดสองเขือควรช่วย เผือนา
ลุลาภสมเจ้าช้างเลิศแท้คุณเขือ ฯ

โคลง ๒
    o กล่าวดีเจือใจแล้วสองพระพี่เลี้ยงแก้ว
กล่าวเล้าโลมสองอรนา ฯ

ร่าย
    o พระทองอย่าปรารมภ์ เชิญธบรรทมให้สำราญ มินานแม่ณเกล้า ลอราชจักพลันเต้า แขกท้าวทั้งสอง ฯ

ร่าย
    o อย่าหมองใจหนุ่มหน้า บรรทมถ้าพระลอ เผือจะซอกล่อมแก้ว กล่าวแล้วสองนางนอน พี่เลี้ยงกรกอดบาท ซอกล่อมนาฎแม่ณเกล้า นอนแม่นอนเทอญนะเจ้า พี่เอ้ยทั้งสอง อ่อนนา ฯ

โคลง ๔
    o แท่นทองถเถือกแก้วจรูญจรัส
แพรฟูกปักหมอนรัตน์เพริศแพร้ว
ขนนเขนยพิดานดัดดาวดาษ เฉลานา
มุ้งม่านผจงกั้งแก้วแก่นไท้ทั้งสอง ฯ
    o เชิญสองพระพี่น้อง บรรทม
ขวัญอ่อนอย่าปรารมภ์ร่ำร้อน
พระลอจะพลันสมสองราช แลแม่
สองแม่อย่าไข้ข้อนอยู่ถ้าเชยชม ฯ
    o ลมพัดเชิญท่านท้าวเสด็จมา หนึ่งรา
ลมแล่นเวหาหาท่านไท้
พฤกษเทพบดีอารักษ์เร่ง พระรา
ดาวดาษเดือนต่างไต้ส่องท้าวเสด็จดล ฯ
    o สองฟังสองพี่เลี้ยงสองซอ
ซอว่าพระเลืองลอจักเต้า
ไพเราะแก่หูพอใจนาฎ แลนา
เสียงเสนาะสองเจ้าพี่น้องนิทรา ฯ

โคลง ๒
    o สองธิดาหลับแล้วสองพระพี่เลี้ยงแก้ว
ซอกล่อมท้าวกลอยหลับเล่านา ฯ


________________________________


ศุภนิมิตข้างพระเพื่อน พระแพง

     และในขณะเดียวกัน คืนนั้นทั้งพระเพื่อน พระแพง แล นางรื่น นางโรย ต่างก็ฝัน
     ครันรุ่งมีลางดี บ่งชี้ว่าจะได้พบพระลอเปนแม่นมั่น

________________________________

ร่าย
    o บัดนั้นสี่นางฝัน เห็นอัศจรรย์นิมิต ติดใจจำชมชื่น ตื่นตระบัดอ่อนไท้ พระเพื่อนคิดจำได้ กล่าวแก้ความฝัน ฯ

โคลง ๔
    o ฝันว่าได้ดอกฟ้ามามือ
หอมยิ่งหอมงามฤๅเปรียบได้
มาลาดิลกคือเฉลิมโลก ไส้แฮ
เป็นปิ่นทิพยทัดไว้กึ่งเกล้าสองเผือ ฯ

โคลง ๒
    o ยินดีเหลือที่อ้างแพงนุชนอนแนบข้าง
ค่อยแก้ความฝัน ฯ 

โคลง ๔
    o ฝันว่าสุริเยศท้าวเสด็จมา
เปนปิ่นปักเกศากึ่งเกล้า
พระจันทรส่องพักตราต่างแว่น ทองนา
ดาวดาษทายทัดเกล้าดุจสร้อยแซมผม ฯ

ร่าย
    o สองพี่ชมฝันไท้ ท้าว ธจะได้ดั่งใจจง ความจำนงลุลาภ อาบสหัสธารา เปนนางพระยานางเมือง แก่พระลอเลืองดิลกโลก เรืองยศโยคเชยชม พระตนกลมเจ้าช้าง ลอราชมาอ้อมข้าง สองอ่อนท้าวสมสมร แม่นา ฯ

โคลง ๒
    o จงลุโดยพรพี่เลี้ยงฟังทั้งสองพี่เพี้ยง
พี่ให้เสวยสวรรค์พี่เอย ฯ

ร่าย
    o นางโรยหรรษ์ชมชื่น นางรื่นยกยอกร ไหว้บทอรสองหน่อไท้ สองพี่เลี้ยงสองไหว้ สองแม่แล้ทูลแถลง ฯ

โคลง ๔
    o พี่เลี้ยงพี่รื่นแก้ฝันถวาย
ฝันอ่อนเอาดาวรายรอบเกล้า
ฝันงูกระหวัดสายสมรแกล่ กลืนนา
ลอราชจักพลันเต้าแขกท้าวทั้งสอง ฯ
    o นางโรยสนองนาฎข้ากลอยฝัน
ฝันอ่อนเสวยไอศวรรย์ฟากฟ้า
สองเสวยอมฤตปัญจ์รสร่วม กันนา
ลอบพิตรเจ้าหล้าพรุ่งนี้มาถึง แม่แล ฯ

ร่าย
    o ฝันพึงใจแก้แล้ว ราตรีแผ้วพระฮาม ยามอรุณอร่ามเรื่อฟ้า พระพี่พระน้องถ้า รุ่งเพี้ยงพันปี ฯ

ร่าย
    o เสียงปักษีดุเหว่า เขากทาเหล่าภูรโดก โคกม้าม่ายเมียงกัน สุโนกขันแจ้วแจ้ว ไก่แก้วขันไจ้ไจ้ ครั้นรุ่งรางจักได้ ไปเยียนราชด้าว สวนขวัญ ฯ

ร่าย
    o พระจันทรส่องแสงเสร็จ พระสุริยเสด็จอุไทย นกตระไนนกลาง เฉวียนฉวางจับจอมไม้ แสดงข่าวไท้เสด็จคลา ฟังเสียงกากระภอก บอกข่าวท้าวเสด็จดล ตนพี่เลี้ยงสองนาง ชมลางดีจะไจ้ ไหว้สองกษัตริย์บพิตร ทูลว่าได้นิมิตสกุณี ประจักษ์ดีแก่ตาข้า รอจะพบเจ้าหล้า ธิราชแล้ณหัว พี่เอย ฯ

โคลง ๒
    o สองชัวชมชื่นแท้สองพี่เร็วเชิญแล้
อย่าช้าเร่งไปหนึ่งรา ฯ

________________________________



(อ่านต่อ)