ลิลิตพระลอ: Jan 31, 2007

ลิลิตพระลอ

Name:
Location: Bangkok, Thailand

Wednesday, January 31, 2007

สี่พี่เลี้ยง



ลีลาสี่พี่เลี้ยง
สังวาส


     พี่เลี้ยงทั้งสี่พบกันในสระบัว
ตอนนี้เปนอีกตอนหนึ่งที่อ่านสนุกนัก มีการเล่นเจ้าล่อเอาเถิด เจรจาต่อถ้อยความ เสพสังวาสกันของพระพี่เลี้ยง ทั้งในสระแลบนบก
จึงตอนนี้ก็จะรวบไว้เสียในทีเดียวเพื่อความต่อเนื่องเรื่องราวแลอารมณ์

     อนึ่ง ดังได้กล่าวถึงเพลงและการแสดงชุด "พระลอเข้าสวน" ไว้เดิมนั้น จึ่งเอามาบันทึกไว้ในตอนนี้เสียทั้งหมด
การแสดงและเพลง ประกอบด้วยเนื้อหา ๓ ตอน คือ
  ๑. เริ่มแต่พระลอปลอมเป็นพราหมณ์นาม ศรีเกศ แลพี่เลี้ยงทังสองแปลงเป้นพ่อค้าคฤหัส นาม นายราม แลนายรัตน์ เข้าไปเที่ยวในอุทยานของพระเพื่อน พระแพง
  ๒. พระลอชมนกชมไม้ในสวน
  ๓. พี่เลี้ยงทั้งสี่พบหน้า เกี้ยวพาราสีกัน ซึ่งในตอนนี้ เป็นการแสดงชื่อ "ฟ้อนรัก" ซึ่งเปนพระนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ประกอบด้วยการร้องสองส่วนคือ ลาวสวยรวย แลลาวดำเนินทราย
     อนึ่ง เนื้อเรื่องในการแสดงนี้ ได้รวบรัดตัดทอนเอาตอนที่พี่เสี้ยงทั้งสี่ปะหน้ากันในสระบัวจนถึงตอนเสพสังวาสกันออกไป คงเหลือแต่ ตอนนางรื่นนางโรยสอบถามชื่อเสียงเรียงนามแลหัวนอนปลายตีนของนายแก้วแลนายขวัญ หลังจากร่วมรักกันแล้ว เท่านั้น
อนึ่ง "พระลอเข้าสวน" นี้ มักจะพบเรียกอีกอย่างว่า "พระลอลงสวน"
ซึ่งตรงนี้ ข้าพเข้ามิอาจระบุที่ถูกผิดได้ แต่ด้วยว่าข้าพเจ้าเองรักใน "ฉุยฉายทศกัณฐ์ลงสวน" มากกว่า "ฉุยฉาย" อื่นใด
จึงพานเรียกเปน "พระลอเข้าสวน" ตามปกเทปที่ข้าพเจ้ามีอยู่ ให้ต่างจาก "ฉุยฉายทศกัณฐ์ลงสวน" เสียกระนั้นเอง..


พระลอเข้าสวน

เมื่อเอยเมื่อนั้น พระลอดิลกเลิศเฉิดฉวี
ปลอมเพศแปลงนามเป็นพราหมณ์ชี เพื่อนมุนีศรีเกษทรงเวทมนต์
นายแก้วนายขวัญนั้นเปลี่ยนนาม ชื่อนายรามนายรัตน์ไม่ขัดสน
มัคคุเทศนำเสด็จจรดล ผ่านสถลมารคเข้าอุทยาน

การะเกดเหมือนเกศแก้วเกษา มะลุลีเหมือนบุบผาแม่เกี้ยวเกล้า
(สร้อย) คู่อ่อนท้าวเขืออะคร้าวงามเอย เพื่อนแพงทองเผือพี่ปองสมเอย
นางแย้มเหมือนแก้มแม่แย้มเย้า ใบโบกเหมือนเจ้าจะกวักกร (สร้อย)
คณานกแมกไม้เรียงรัน ร้องเรื่อยรับขวัญเหมือนเสียงสมร (สร้อย)
เห็นโนรีสาลิกาใคร่ว่าวอน ฝากอักษรถวายน้องสองพธู (สร้อย)
ถึงสระบัวยั่วยอพระลอลักษณ์ ใคร่เก็บฝักหักดอกออกอดสู (สร้อย)
ผองภมรว่อนเฝ้าเคล้าเรณู เหมือนเย้ยภูธรระเหอยู่เอองค์ (สร้อย)
คะนึงนางพลางเสด็จลีลา แอบร่มพฤกษาสูงระหง (สร้อย)
สุคนธรสหอมหวนลำดวนดง เหมือนจะส่งกลิ่นถวายราชา (สร้อย)

("ฟ้อนรัก" ร้องลาวสวยรวย)
สองพี่เลี้ยงแม่เอ๋ยหลากจิต สงสัยคิดประหลาดใจ
หรือพระลอ พระลอหน่อไท้ ท่านแกล้งเป็นพราหมณ์ปลอมเอย
ศิษย์ทั้งคู่เที่ยงพี่เลี้ยงพระลอแล้ว
เห็นหาแคล้ว หาแคล้วปู่ทาย สมหมายแล้วเอย
สาวมองเมิลหาหนุ่มอะคร้าว เห็นใครน้าวเพิงพุ่ม
สองพี่เลี้ยงสองเมียงตะคุ่ม สุมทุมพฤกษาโพ้นเอย
โน่นนายขวัญนั่นนายแก้ว แน่แล้วบ่ สงกา
เดี๋ยวหวนหลบ หวนหลบเลี่ยงหน้า ซ่อนหาอยู่ไวไวเอย
สองนวลแม่เอ๋ยรื่นโรย สาวชายโชยตามจับ
สองพี่เลี้ยงสองเมียงขยับ ผลับหายบ่ให้เห็นเอย
ล่อสาวสองเผลอไล่ เผลอแต่หมายมุ่งตามไป
เห็นหลงไกล หลงไกลได้ช่องปล่อยให้สองเจอะเอย

("ฟ้อนรัก" ร้องลาวดำเนินทราย)
สองนางงามก็เล้าโลมถาม พี่เลี้ยงเฉลย
ชะคนเคยบ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลอกหลอน
เผือจากเมืองบุรีรัมมะยะนคร มโนห่อน น้อ
มโนห่อนเอย มโนห่อนเที่ยวค้ามากับพราหมณ์ โอ้ว่าปากเอ๋ยปาก
โอ้ว่าปากเอ๋ยปาก ปากเอ๋ยข้อยอยากจะหยิก
ทำกลับกลอกหลอกแพลงพลิก หัวใจริกริกเคืองเอย
ช่างใส่สีทำคดีอำพราง สองนายเอ๋ยเขารู้ถึง ถึงใจพี่เพลี่ยง
เอ๊ะ ถึงพี่จะเลี่ยง สุดที่จะเถียงแล้วเอย

_____________________________________


ร่าย
    o ข้ากระไดกระแหน่ แต่งแง่แผ่ตนท่า สองพระธิดาจอมราช ขึ้นช้างคลาไคลคลา ส่วนพระราชาครั้นเช้า สั่งผู้เฝ้าสวนศรี แม้มีผู้มาถามหาว่าใคร มาอาไศรยสูจงบอก ชายชาวนอกสองคน พราหมณ์ตนหนึ่งเปนสาม ตามกันมาคะคลอน มาขอนอนยังรุ่ง มุ่งเมิลสวนไม้ไหล้ ถอนใจใหญ่โหยหา ครั้นเช้าลาคลาไคล พึ่งออกไปเมื่อกี้ ครั้นสั่งแล้วดั่งนี้ ท่านท้าวเสด็จไป ฯ

ร่าย
    o สองนายระไวระวัง เหลียวหลังเห็นสองนาง ไต่ทางตามกันมา ปลงคชาสู่อุทยาน มินานถามผู้เฝ้า มีผู้เข้ามาฤๅ เขาบอกไปคือธสั่ง สองนางชั่งใจดู สูเห็นสูมากล่าว เถ้าฤๅบ่าวปูนใด โฉมปานใครสูว่า เขาว่าอย่าเทียมเทียบ ฉิว่าเทพสิเปรียบไป่ปาน หนุ่มสคราญงามนัก น่าใคร่รักแห่งพราหมณ์ ผู้มาตามทั้งสอง โอ้อย่าปองบมิปูน สองฟังฉูนใจเคียด หึน่าเกลียดใจรา มาแต่งแง่ให้ช้า ผิว่าแว่นเร็วอ้า บร้างได้กินใจ หนึ่งเลย ฯ

โคลง ๒
    o สองเจ็บใจละห้อยเอะอาตมมาช้าหน้อย
หนึ่งให้เสียใจบารนี ฯ
    o เยียฉันใดกูจักได้เห็นเล่านาให้ให้
ลาภแล้สองรา ฯ 
    o บุญมีมาอย่าช้าใช่อื่นเลยเจ้าหล้า
กับพี่เลี้ยงทั้งสอง ฯ 
    o มองหนหาตาแห้งเห็นแต่ไกลกล้องแกล้ง
ไต่เต้าตามกัน ฯ 
    o มาพลันแลดูนี้สูบอกแก่ตูกี้
นี้ฤๅชาวเรา ฯ 
    o เขาเห็นเขาว่าแท้สองนายมาพู้นแหล้
เพื่อนเจ้าชีพราหมณ์แลนา ฯ

โคลง ๓
    o สองนางงามแว่นไวชายเข้าไปใกล้แล้ว
แสร้งใส่กลให้แคล้วบ่ให้เขาเห็น ฯ

โคลง ๒
    o ที่นี้เปนง่ายแท้ลุลาภสองเราแหล้
เพื่อนเอ้ยเต็มใจบารนี ฯ
    o สองลงในสระเร้นจะลอบลักดูเหล้น
อย่าให้เห็นเรา ฯ 
    o สองนายมาบมิช้าครั้นชุ่งจะใกล้อ้า
ค่อยผ้ายโชยชาย ฯ 
    o ทอดกรกรายย่างเยื้องเข้าสู่อุทยานเบื้อง
ฝ่ายสร้อยสวนขวัญ ฯ 
    o เห็นคนจรัลเมื่อกี้หายแห่งใดบัดนี้
บให้เห็นตัว ฯ 
    o น่าใคร่หัวหลากแท้เราเลียบเล็งดูแหล้
เปล่าถ้วนทุกทาย ฯ 

ร่าย
    o สองนายลงในสระ สองนายพะสองนาง ค่อยหัวพลางยยิ้ม คอยเมื่อสองมาปิ้ม ดอกแสร้งถามขา ฯ

โคลง ๔
    o สองนายมาแต่ด้าวแดนใด
มาบ่เกรงกลัวใจอาจแท้
ดังฤๅจึ่งลงในสระราช นี้นา
เร็วเร่งขึ้นพลันแม้ไม่ขึ้นเปนความ
    o พี่จะขึ้นเจ้าอย่าขับหนี
มาแต่เมืองไกลลี-ลาศเต้า
เห็นสระสนุกมีใจใคร่ ชมนา
เรียมบ่ได้รู้เจ้าอย่าเผ้อคุกคาม ฯ
    o เรียมมาสวนนี่ไส้นฤมล พี่เอย
แลบ่เห็นสักคนหนึ่งเฝ้า
เห็นสระสนุกชลจักอาบ ตนนา
ฤๅและมามีเจ้าว่าให้เรียมอาย ฯ
    o เรียมลาสองแม่แล้ทรามรัก พี่เอย
จะอยู่จะอายนักกว่านี้
เปนชายแลหญิงผลักหนีหน่าย ตนนา
เพราะบ่เห็นแก้วกี้จึ่งได้มาลง ฯ
    o พี่ขุนไปด่วนขึ้งนักหนา เล่านา
ผิดคาบเดียวพันคราด่วนพ้อ
เยียวชายชั่วหลงมาแลว่า ไส้พ่อ
ผิดเพื่อบเห็นน้อโทษข้าขอษมา ฯ
    o  เยียวเห็นแลเคียดไส้ใจบุญ พี่เอย
ผิบ่เห็นฤๅฟุนเท่าเผ้
ฟังอ่อนอมฤตฉุนใจชื่น ชมนา
ได้กล่าวผิดใจเจ้าจุ่งเจ้าอดออม ฯ
    o พี่ขุนจะอาบน้ำเชิญลง อาบรา
ลงอาบในสระสรงสว่างร้อน
ขัดสีธุลีผงสะเหงื่อ ไคนา
แล้วเก็บฝักบัวปล้อนเปลือกสิ้นกินพลาง ฯ

ร่าย
    o สองนายฟังสองนาง ผลัดผ้าพลางลงอาบ ทำสุภาพลเมียด คำลเอียดเอาใจ เผืออาบในสระแล้ว เสมออาบน้ำทิพยแก้ว แลน้อง ณ หัว พี่เอย ฯ



โคลง ๔
    o กินบัวอร่อยโอ้เอาใจ บารนี
สโรชข่าวฉันใดใคร่รู้
เชิญพี่จุ่งไปในบัวฝ่าย นั้นนา
ได้อมฤตรสสู้อย่าแล้ไปสวรรค์ ฯ
    o แม่โรยรักอย่าได้โรยใจ หนึ่งรา
นำแขกเราไปในฝ่ายนั้น
จะเก็บจะกินใดโดยท่าน เถิดแม่
เจ้าช่วยเก็บให้หั้นจุ่งให้เต็มใจ ฯ
    o นางโรยนางเรียกด้วยคำงาม
ขวัญอ่อนดังขวัญกามยั่วแย้ม
ใบบัวหนั่นหนาตามกันลอด ไปนา
หอมกลิ่นบัวรสแก้มกลิ่นแก้มไกลบัว ฯ
    o ใบบัวบัวข้าขอบใจบัว
ดอกดั่จะหัวรัวเรียกเต้า
เชยชมภิรมย์ชัวชมซาบ บัวนา
ถนัดดั่งเรียมชมเจ้าพี่เหล้นกับตน ฯ
    o บัวนมบัวเนตรหน้าบัวบาน
บัวกลิ่นขจรหอมหวานรสเร้า
บัวสมรละลุงลาญใจบ่า นี้นา
บัวบาทงามจวบเท้าเกศแก้วงามจริง ฯ
    o โกมุทกาเมศแก้วโกมล พี่เอย
หอมกลิ่นจงกลกลกลิ่นแก้ว
จงกามินีปนรสร่วม กันนา
จงกอบอย่ารู้แคล้วก่อเกื้อกรีฑา ฯ
    o สนุกบัวซ้อนดอกบัวพระ พี่นา
ปลาช่อนปลาไส้ระดอกไม้
สลิดโพตะเพียนพะกันชื่น ชมนา
รวนเพรียกแนมหลิ่งไส้เหยื่อหย้ามฟูมฟอง ฯ
    o สนุกข้างนี้แนบจอมใจ พี่เอย
สองสนุกกันในฝ่ายนั้น
ทำขวัญสนุกใดจักดุจ นี้นา
หนีซอกซอนซ้ำหั้นเชิดชู้เทียมรงค์
    o สรงสนุกน้ำแล้วกลับสนุกบก เล่านา
สองร่วมใจกันยกย่างขึ้น
ขึ้นพลางกอดกับอกพลางจูบ
สนุกดินฟ้าฟื้นเฟื่องฟุ้งฟองกาม ฯ
    o สอนางนำแขกขึ้นเรือนสวน
ปัดฟูกปูอาสน์ชวนชื่นชู้
สองสมพาสสองสรวลสองเสพย์
สองฤดีรสรู้เล่ห์พร้อมเพรียงกัน ฯ
    o เสร็จสองสมพาสแล้วกลกาม
สองอ่อนสองโอนถามชื่อชู้
สองมาแต่ใดนามใดบอก ราพ่อ
ให้แก่สองเผือรู้ชื่อรู้เมืองสอง ฯ

ร่าย
    o สองนายฟังสองนาง แสร้งบอกพรางบบอกชื่อ เผือนี้ชื่อเจ้ารามรัตน์ นัดกันมาจะค้า พลัดมาท่าทางทบ พอประสบเจ้าพราหมณ์ ทรงนามเจ้าศรีเกษ ใคร่เห็นประเทศมาด้วย พอประสบหน้าสร้วย พี่แล้จอมสมร ฯ

ร่าย
    o เผืออยู่ในรมยนคร มโนหรราชธานี บุรีรมย์บอกแจ้ง จะอยู่ด้วยกล้องแกล้ง แต่นี้ฤๅไป จากเอย ฯ

โคลง ๒
    o สองตกใจละลั้งละเลิดผิดอันตั้ง
ต่อรื้อฉันใด ฯ 
    o ธมาในเมืองนี้มีเครื่องค้ามากี้
สิ่งข้าขอถาม ฯ 

โคลง ๓
    o ขุนนางอยู่ไกลกันบ่ทันนัดกันได้
สองแม่ถามไจ้ไจ้สะทื้นสะเทิ้นไปมา ฯ

โคลง ๒
    o บอกเร็วราเครื่องค้าบบอกได้อึหน้า
ใครให้ราหัว 
    o พรางตัวเองดั่งนี้หน้าใช่หน้าสับปลี้
มาไขว่ถ้อยเอาเผือ ฯ 

ร่าย
    o เครื่องค้าเหลือผู้ซื้อ กะหมั่ง
สินตัวยื้อมิถึง กะหมั่ง
มิบอกจริงบอกพราง กะหมั่ง
ทรงขุนนางอะเคื้อ กะหมั่ง
เนื้อชาววังใช่ช้า โฉมใช่โฉมคนค้า หน้าใช่หน้ากริกกริว ฯ

 


เชิญพระลอสู่สวนหลวง

     นายแก้ว นายขวัญบอกความจริง จึงไปเชิญพระลอเข้าพักยังสวนหลวง
_____________________________________

โคลง ๒
    o มาจะหัวให้หายหิวอยากเข้าเชิญบอกอันจริงเจ้า
แก่น้องอย่าอำหนึ่งรา ฯ
    o สองสนองคำอ่อนพร้องจะบอกจริงแก่น้อง
อย่าเย้นหยันตู ฯ 
    o พระภูธรอยู่เกล้าลอราชพระเสด็จเต้า
เผือพี่เลี้ยงมาตาม ฯ 
    o ขุนงามบอกข่าวไท้เสมอดั่งสองนางได้
ผ่านเฝ้าไอศวรรย์ ฯ 

โคลง ๔
    o ตวันเจียนจากฟ้ามามือ
จักใคร่ถือเดือนถือก็ได้
เมรุทองละอองปือปือรอด ไปนา
ขอท่านเชิญท้าวไท้ธิราชเจ้าเสด็จมา ฯ
    o พระเสด็จมาอยู่ด้าวแดนใด พี่เอย
มาอยู่ในสวนใครใคร่รู้
พระองค์ท่านเสด็จในสวนเปล่า เขานา
พระเปลี่ยวบมีผู้เพื่อนไท้เสด็จเดียว ฯ
    o ตีอกออกปากโอ้พระภู เบศร์เฮย
มาอยู่ฉันใดดูละห้อย
บเคยยากอกตูจักหว่า แลพ่อ
โหยสอื้นค้อยค้อยคร่าวน้ำตาไหล ฯ
    o เอนดูสองท่านผ้ายไปพลัน
ถึงบาทบงกชคัลเคี่ยมไหว้
ขอเชิญปิ่นไอศวรรย์เสด็จยาตร มานา
เผือจะเชิญสองไท้ธิราชพู้นมาพลัน ฯ
    o แต่จักท่าไหว้บาทบงกช
น้อมศิรามพุชจรดกึ่งเกล้า
ขอรับอมฤตรสพจนาตถ์ ไปนา
ถึงพระนุชน้องเหน้าท่านถ้าฟังสาร ฯ
    o สองนายกรกอดเกี้ยวสองนาง
มือสอดเสียดเอวบางลูบท้อง
พิศพลางจูบชมพลางเรียมสั่ง สองแม่
มิใคร่ไคลคลาศน้องหนึ่งเล้ยกับตน ฯ
    o สองนางซบแนบเนื้อสองนาย
พระลูกเอยจักผายคลาดแคล้ว
พระไปจากเสมอตายทีหนึ่ง แลพ่อ
รักเร่งมาพลันแก้วช่วยน้องอย่านาน ฯ
    o ไปสองสามย่างแล้วเหลียวมา เล่านา
เจ้าพี่เอยเรียมคลาคลาศแคลัว
เผือไปแต่ตัวหาจอมราช ไส้นา
ใจอยู่เชยชมแก้วพี่ไส้กับตน ฯ
    o เผือข้านับอยู่ไส้ขุนงาม ลูกเอย
อยู่แต่ตัวใจตามท่านแท้
ไปมาอย่านานทรามรักท่วม เราเฮย
เชิญเร่งเร็วพลันแม้อยู่ช้าเผือตาย ฯ

โคลง ๒
    o สองนายไปบมิช้าถึงสมเด็จเจ้าหล้า
กราบเกล้าทูลสาร ฯ 
    o ทูลอาการทุกข้อบรรยายแต่ต้นหน้อ
มาถี่ถ้วนความใน ฯ 

โคลง ๔
    o เผือข้าพบพี่เลี้ยงสองศรี
ใจจอดจอมกษัตรีย์อยู่เกล้า
ขอเชิญปิ่นภูมี-ศวรราช
จงบพิตรพระเจ้าอย่าช้าเสด็จจร ฯ
    o พระลอลีลาศคล้อยไคลคลา
งามดุจสีหลีลาจากถ้ำ
สองนางอยู่คอยหาเห็นราช มานา
ลุกแล่นรับแลล้ำหยาดฟ้าลงดิน ฯ
    o สองถึงสองกราบไหว้บทมาลย์
เชิญบพิตรภูบาลอยู่เกล้า
ยังรมยพิมานสถานประพาส พระเอย
เรือนสำราญน้องเหน้าท่านไท้ทั้งสอง ฯ

โคลง ๒
    o พระลอสนองพี่เลี้ยงสองพระนุชเนื้อเกลี้ยง
สุขอยู่รื้อฉันใด ฯ 
    o สองจอมใจอ่อนไท้องค์บไข้ใจไข้
ละห้อยโหยหาท่านนา ฯ



คารมพระลอ

     นางรื่น นางโรยเข้าเฝ้าพระลอ พระลอแสดงคารมมหากาฬ ฝากถ้อยไปยังสองศรี พระพี่เลี้ยงนำความไปแจ้งพระเพื่อน พระแพง ซึ่งร้อนรุมอยู่รอท่า
     เปนอีกตอน ๑ ที่แสดงให้ประจักษ์ถึงพระอัจฉริยภาพของผู้ทรงนิพนธ์เรื่องพระลอนี้ ในการใช้ข้อความแต่สั้นๆเล่าเรื่องราวมากมาย โดยเก็บรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆได้อย่างครอบคลุมชัดเจน

_____________________________________



ร่าย
    o พระราชาลีลาศ พระบาทขึ้นเรือนสอง กุณฑีทองน้ำหอม ถนอมล้างพระบาทยุคล พิมลพัสตเช็ดบาท เหยียบผ้าลาดเสด็จดล บนบรรยงกไสยาสน์ เสด็จเหนืออาสน์อิงองค์ พระบาทบงกชพัก ทักปราไสสองนาง สองไหว้พลางจึ่งทูล ข้าแต่นเรสูรอยู่เกล้า พระเจ้าเคยขึ้นช้างลงม้า คานหามท่ารับราช ผ้าลาดแล้วเกือกทอง รองพระบาทซ้ำซ้อนอ่อนเรียบ ดังฤๅมาเหยียบดินเดินเพียงไพร่ ไต่ทางป่าท่าดงรก อกเผือข้าดั่งจะคราก อ้าลำบากพระองค์ ซบเศียรลงกราบไหว้ พระบาทฤๅมาได้ ยากพ้นประมาณ ดังนี้ ฯ

โคลง ๒
    o ภูบาลสนองพี่เลี้ยงสองพี่ปรานีเพี้ยง
พระญาติผู้พึงใจ ฯ 
    o ยากนักใดดุจด้วยเพราะใคร่เห็นหน้าสร้วย
สองอ่อนท้าวแลนา ฯ 
    o ปรานีราอย่าช้ารักเร่งให้เห็นหน้า
หน่อท้าวทั้งสอง ฯ 

โคลง ๔
    o พระทองเสด็จอยู่นี้อย่าคลา
สองพี่ขุนรักษาอยู่เกล้า
เผือข้าชุลีลาพระบาท แลพ่อ
หับกุญแจเร้นเจ้าแผ่นหล้าลับองค์ ฯ
    o หัวอกจักครากแล้เขือเห็น
นับอยู่ในใจเปนดั่งบ้า
สองเขือพี่อย่าเย็นใจเร่ง ไปรา
เอาข่าวถึงน้องหน้าหนุ่มเจ้าจอมสมร ฯ
    o แม้สองเจ้าตั้งใคร่เห็นกัน นาพี่
เชิญพระนุชมาพลันอย่าช้า
แม้นานอ่อนฤๅทันเห็นชีพ เรียมเลย
ฝากแต่พระศพถ้าอ่อนให้เผาผี ฯ
    o สองไหว้พระบาทแล้วสองลา
สองสั่งสองนายตาค่อยเคล้า
ตาสองลอบแลหาเมียงม่าย กันนา
จวนจวบตาท้าวเจ้าลอบต้องตาเขา ฯ
    o สองนางจรจากห้องโหยหวน สวาทนา
เมียงแต่หางตาสรวลสั่งชู้
สองนายลูบอกครวญครางแต่ ใจนา
เจียรจากดั่งนี้ผู้อื่นนั้นฤๅมี ฯ

ร่าย
    o ข้าลีลาถึงนอก ครั้นออกแล้วทั้งสอง กุญแจทองใส่ทวาร เอาลูกดาลไปด้วย อิ่มอกย้วยไคลคลา ลีลาขึ้นช้างผ้าย คลับคล้ายเข้าทวารเวียง จิตต์จ่อเมียงสองเจ้า ลงช้างเข้ายังวัง ทอดตายังปราสาท เห็นสองราชกษัตรีย์ ในช่องสีหบัญชร ดุจอัปสรสู่หล้า เยี่ยมหน้าดุจดวงเดือน เหมือนแว่นฟ้าทั้งคู่ ต่างตาดูอยู่คอยทาง เห็นสองนางพี่เลี้ยง หน้าชื่นสดใสเพี้ยง พ่างท้าวเสด็จมา ฯ

โคลง ๒
    o มาสองราจะร้องถามเถิดฤๅพระน้อง
จุ่งได้แรงใจหนึ่งรา ฯ
    o คิดนึกไปชอบเหรื้องความรั่วรู้ทุกเบื้อง
พระย่ารู้ฤๅดี ฯ 
    o มาจะตีตนตายจุ่งแล้วสองพระพี่เลี้ยงแก้ว
ยกย่างช้าเยียใดดั่งนี้ ฯ
    o ทวารวังในว่าใกล้ฤๅแลวันนี้ไส้
ขยดออกรื้อดูไกลบารนี ฯ

ร่าย
    o ถึงบันไดสองขึ้น แลนา
ถึงพ่างพื้นปราสาท แลนา
เข้าใกล้บาทยุคล แลนา
ไหว้เจ้าตนทูลข่าว แลนา รับขวัญยอมือไหว้ บัดนี้ขวัญท้องไท้ มาสู่แล้วณหัว พี่เอย ฯ



พระเพื่อนพระแพงสู่ตำหนักสวนหลวง

     พระเพื่อน พระแพงรับรู้ความแลถ้อยคำพระลอจากนางรื่น นางโรย แล้วไปขออนุญาตพระย่าเที่ยวเล่นในอุทยานหลวง
พระย่าชื่นชมแลย้ำเตือนครรลองครองตน
     นางโรยนางรื่นจัดแจง พระเพื่อน พระแพงขึ้นพระตำหนักซึ่งพระลอแลพี่เลี้ยงเร้นรอท่าอยู่ !
_____________________________________

โคลง ๔
    o จอมขวัญพระพี่เอ้ยบุญสอง
โฉมราชงามคือทองแท่งแท้
คือเทพดาผยองมาสู่ พระนา
ในโลกนี้สุดแล้แต่ท้าวองค์เดียว ฯ
    o พระสอนพระสั่งข้าพระศรี พี่เอย
ผิแลพลันพบธีเบศร์ไท้
แม้นานแต่พบผีจอมราช แลแม่
ฝากแต่พระศพไว้เถิดให้เราเผา ฯ
    o พี่เอยแก้วฟ้าหยาดมามือ นาพี่
รักยิ่งชีพิตฤๅใคร่แคล้ว
ครั้นด่วนนักจักฦๅความเล่า แลพี่
ลาย่าเปนเจ้าแล้วด่วนได้โดยใจ ฯ
    o สองท้าวยังย่าไท้ทูลทรง
พระบาทสองศรีผจงใส่เกล้า
สองเสด็จแนบแนมองค์อิงแท่น
ละเลี่ยนสองเฟี้ยมเฝ้าย่าต้องติดใจ ฯ
    o ย่าชมหลานแก้วยอดเยาวมาลย์
สองดุจบงกชบานใหม่หน้า
สองศรีล่ำเภาพาลเพ็ญภาค กูเอย
นวดย่าได้แรงอ้าอ่อนรู้ถือถนอม ฯ
    o ชูหน้าสองหนุ่มหน้าเชยชม
สองอ่อนงามสระสมใช่น้อย
ใจดีอ่อนอุดมใครคู่ สองนา
สองนวดฟั้นค้อยค้อยย่าได้แรงรมย์ ฯ
    o อย่ากดใจฟั้นย่านานนัก
อุตส่าห์เยียวสองภักดิ์ใฝ่ไข้
สองนางรื่นโรยรักษาอย่า ลืมนา
เตือนอ่อนสรงเสวยไล้ลูบแป้งผัดผิว ฯ
    o เผือข้าแฝงบาทไหว้บทมาลย์
สุขสิ่งใดปูนปานเปรียบได้
พิศพักตร์ดุจบัวบานฤๅใคร่ คลายเลย
เสมออมฤตไล้ลูบแล้ลืมเมือ ฯ
    o สองเจ้ารักย่าให้ติดใจ บารนี
อ้าอีกฟังเสียงใสอ่อนพร้อง
สองศรีกล่าวเสนาะใดจักดุจ นี้นา
เสมออมฤตต้องย่าได้แรงจริง ฯ
    o ย่ารักมิใคร่ให้ไกลตัว
เยียวย่าเตือนเพราะกลัวเกลือกไข้
ย่าสงวนยิ่งสงวนหัวใจย่า ไส้นา
เทียรย่าเตือนไจ้ไจ้อย่าน้อยใจเขือ ฯ
    o อิริยาบถสี่ไส้สงวนองค์ อ่อนเอย
นอนนั่งยืนเดิรจงอย่าเว้น
สองศรีสมบูรณ์บงกชมาศ กูเอย
นอนนั่งยืนเดิรเหล้นแต่งให้เสมอก้น ฯ
    o เผือข้ามิใคร่ผ้ายไปไกล ท่านนา
ตัวจากใจอาไลยท่านไท้
ขอลาบพิตรไปประพาส พระเอย
สมสนุกเล่นไหล้แหล่งสร้อยสวนขวัญ ฯ
    o เชิญสองพระพี่น้องเสด็จไป
สรงสระพลางชมไพรดอกไม้
ยามเย็นจึ่งคลาไคลยูรยาตร มานา
สองราชฟังแล้วไหว้ย่าเจ้าลาเมือ ฯ

โคลง ๒
    o ยินดีเหลือที่อ้างเราจะพบเจ้าช้าง
ธิราชแล้เต็มใจบารนี ฯ

ร่าย
    o คืนเข้าในปราสาท เสร็จสองราชเสด็จสรง แล้วสองทรงพระปรัด ผัดพักตร์ดุจดวงเดือน เกล้าเกศเหมือนสาวสวรรค์ นุ่งแพรพรรณลายเลิศ พพรายพริ้งเพริศประไพ สไบสมบูรณ์บรรจง ทรงเครื่องเสร็จยูรยาตร ลีลาศดุจอัปสร ทวยทอดกรนวยนาฎ ถึงเกยมาศบรรยง สองเสด็จทรงกรินี มีจำลองจำหลักลาย รูปสัตว์กลายช้อยชด อลงกฎกูบแก้ว ช้างชื่นงามแพร้วแพร้ว เครื่องช้างงามยง ยิ่งนา ฯ

ร่าย
    o ยยับธงมยุรฉัตรทอง รังรองกรรชิงรัตน์ พัดโบกพัดจามร สาวสลอนโดยเสด็จดาษ พี่เลี้ยงราชตามกษัตริย์ ไปตระบัดบหึง ถึงประตูอุทยาน คานหามทองรับราช ลีลาศเทียบมนเทียร พี่เลี้ยงเจียนใจแกว่น แล่นก่อนไขประตู ส่วนพระภูธรบรรจง ทรงมกุฎภูษา พัสตราภรณ์อจินต์ งามเงื่อนอินทรหยาดฟ้า เร้นอยู่เรือนรัตน์ถ้า แนบเนื้อสองสนอง ฯ

ร่าย
    o สองนายซ่อนข้างแท่น นางรื่นแล่นปูอาสน์ ให้สองราชเสด็จออก นอกให้ข้าไทเฝ้า ส่วนชาวเจ้ากำนัล เคียมคัลโดยระบอบ นางโรยนอบนบว่า ส่วนพระย่าธสั่งไส้ ให้เผือข้าหมั่นตัก เตือนสองลักษณ์ไสยาสน์ สองนางนาฎใส่กล ว่าบัดเดี๋ยวดลเทิญจะนอน นางรื่นกรประนมไหว้ ทูลว่าพระย่าไท้ธิราช พระบาทสั่งทุกอัน ชาวกำนัลเปนพยาน มินานด่วนลืมคำ ธจะจำตูต้องโทษโพย นางโรยเร่งช้กม่าน เชิญสองท่านเสด็จเข้า ส่วนชาวเจ้ากำนัลนั้น ครั้นจะอยู่ท้าวธจะมิหลับ ขับกันลงเล่นไหล้ ชมดอกไม้วัลย์เครือ แต่สองเผือนี้จะเฝ้า สองท้าวเจ้าจอมราช ครั้นฝูงนางคลาศคลาลงแล้ว สองพระพี่เลี้ยงแก้ว หับถี่ถ้วนทุกทวาร ฯ

_____________________________________


(อ่านต่อ)