ลิลิตพระลอ: พระลอคลั่ง
Name:
Location: Bangkok, Thailand

Saturday, February 3, 2007

พระลอคลั่ง


พระลอคลั่ง ครวญคร่ำร่ำสู่สรอง

    พระลอปดพระมารดาขอไปเที่ยวป่า แต่พระมารดารู้ทัน ไม่ให้ไป พระลอก่นแต่ทุกข์ถึงคลั่งเพ้อ
เหล่าอำมาตย์มนตรีแนะให้แต่งสารไปสู่ขอพระเพื่อนพระแพง แต่พระลอดึงดื้อจักไปเอง
    เหตุการณ์แลการต่อถ้อยของพระลอกับพระมารดาในช่วงนี้ เปนอีกตอนหนึ่ง ที่แต่งไว้ได้น่าอ่านนัก

________________________________


นางเมืองนั่งแนบเฝ้า จอมกษัตริย์... พระราชชนนีเล้า ลูบไล้โลมขวัญ

โคลง ๔
    o ท้าวทูลธิราชไท้ ชนนี
ไหว้บาทบงกชศรีใส่เกล้า
ข้าพระอยู่มามีใจเหนื่อย พระเอย
จักใคร่ลาพระเจ้าเที่ยวเหล้นพนาสนฑ์ ฯ
    o ออกท้าวฟังลูกไท้ทูลลา ท่านนา
เจ้าแม่เปนใดนาดั่งนี้
มดหมออยู่รักษาสงวนราช นะพ่อ
สุดกำลังเขาชี้ยากแท้ทุกอัน ฯ
    o ผีสางเขาส่งซ้ำเติมมา มากนา
มนตรมายายาหยูกซ้ำ
วันใดราชลีลายกย่าง ไปนา
อกแม่ผอมไข้ขว้ำหล่มหล้มพระองค์ ฯ
    o พระลอลาบ่ได้ทนทุกข์ อยู่นา
บัดนั่งบัดนอนลุกละห้อย
ไอศวรรย์บ่เปนสุขเสวยโศก ไส้นา
โหยคนึงเสน่ห์สร้อยบ่ได้สร่างเสบย ฯ
    o นางเมืองนั่งแนบเฝ้าจอมกษัตริย์
ถนอมบาทบงกชรัตน์ใส่เกล้า
พระสนมรำเพยพัดไกวแกว่ง วีนา
พระราชชนนีเล้าลูบไล้โลมขวัญ ฯ
    o พระลอบสร่างเศร้าศรีหมอง อยู่นา
หลับลเมอหาสองหนุ่มหน้า
เคลิ้มไคล้หวาดใจปองปองไป่ ลุเลย
คิดคนึงโอ้อ้าใคร่กลั้นใจตาย ฯ
    o ตื่นขึ้นวอนว่าข้าจักไป
ประพาสชมไพรพลางไล่ช้าง
ชมพนมพนาไลยพลางไล่ มฤคนา
ชมป่าดงพงกว้างเถื่อนถ้ำสระศรี ฯ
    o ออกท้าวฟังลูกไท้ปรารมภ์ อยู่นา
ปากว่าจะไปชมช่อไม้
ครั้นไปจะไปสมสองนาฎ แลนา
ใส่เล่ห์วอนไจ้ไจ้จักห้ามฉ้นใด ฯ
    o หาโหรหาถ้วนมิ่งมนตรี
หาปู่สิทธิไชยลี-ลาศเต้า
แถลงคำแก่นกษัตรีย์ ทุกสิ่ง แลนา
โหรว่าจักห้ามเจ้าแผ่นหล้าฤๅฟัง ฯ
    o สิทธิไชยทูลแด่เจ้าจอมกษัตริย์
แม้นเทพมาทัดทัดบ่ได้
มนตรีว่าเห็นขัดทุกสิ่ง แลนา
จักส่งสารถึงไท้สืบสร้องกลความ ฯ

โคลง ๓
    o ธขอบคำความมนตรีกลกล่าวดีชอบแท้
แก้อื่นบได้แก้ดั่งนี้เห็นควร ฯ

โคลง ๒
    o จึ่งเสด็จยวรยาตรเต้ากล่าวแก่พระลอเจ้า
พ่อเฮ้ยปรานีแม่รา ฯ

ร่าย
    o แม่ฟังคำพ่อว่า ใคร่เล่นป่าชมเขา แม่เดาใช่คำจรึง พ่อคำนึงอื่นไส้ พระบอกจงจริงให้ แม่รู้เต็มใจ หนึ่งรา ฯ

โคลง ๒
    o ข้ารำพึงอื่นแท้จะบอกความจริงแล้
พระห้ามขัดใจลูกนา ฯ
    o สิ่งใดพอใจแก้วยังห่อนฤๅให้แคล้ว
ขัดข้องใจขุนแม่นา ฯ
    o เปนตามความชอบแล้วจ้กแต่งตามใจแก้ว
ก่ำพร้าฤๅขืนอื่นเลย ฯ
    o พระเอยหัวใจข้าคิดใคร่ไปเห็นหน้า
เพื่อนไท้แพงทอง ฯ 
    o ความปองลูกบ่ได้บร้างเห็นหน้าไท้
ธิราชแล้นะหัวลูกเอย ฯ
    o ลาบัวบาทเจ้าหล้าไปสู่สองแล้วข้า
จึ่งผ้ายคืนมา ฯ 



เนื้อสู่เสือฤๅเสือ  จักไว้..     บรอดเลยราชา  อย่าผ้าย

โคลง ๔
    o เจ้าไปแล้วเจ้าจักคืนเมือ ลูกเอย
เนื้อสู่เสือฤๅเสือจักไว้
ฟังคำพ่อคิดเหลือเหลือที่ คิดนา
คิดบ่ได้ล้วนได้แต่ร้อนฤๅเสบย ฯ
    o โดยธคิดชอบถ้อยคลองความ
จักแต่งไปสู่ถามพี่น้อง
จักรับพงางามสองสู่ พระนา
ได้ง่ายฤๅขัดข้องเท่าเส้นยองใย ฯ
    o ดำริห์โดยราชนี้เยียวนาน
เยียวพ่อสองเยาวมาลย์ห่อนให้
ทางไกลเที่ยวทูลสารยลยาก พระเอย
ข้าพระไปเองได้ง่ายแท้ทุกอัน ฯ
    o พ่อไปแล้วนะเจ้าคืนมา รอดฤๅ
บรอดเลยราชาอย่าผ้าย
ยาอีกสิ่งมนตราคมยิ่ง ยานา
ผีก็ร้ายคนร้ายรอดได้กลใด ฯ
    o เมืองเราอุบาทว์ร้ายแรงนัก ลูกเอย
เขาส่งผีสางศักดิ์ข่มแล้ว
ฤๅบาปิ่นไตรจักรจักรอด ฤๅพ่อ
หล้มแผ่นดินหล้มแก้วแม่หล้มไอศวรรย์ ฯ
    o รอยท้าวทูลบาทเบื้องบุญขจร
พระปู่เขาเรารอนขาดเกล้า
เขาคุมเคียดจักหลอนทำโทษ แทนนา
ฤๅพ่อจักไปเข้าสู่เงื้อมมือเข็ญ ฯ
    o ถึงกรรมจักอยู่ได้ฉันใด พระเอย
กรรมบ่มีมีใครฆ่าข้า
กุศลส่งสนองไปถึงที่ สุขนา
บาปส่งจำตกช้าช่วยได้ฉันใด ฯ
    o ผิไปถึงแล้วและถึงกรรม์ ก็ดี
ตกนรกแสนศัลย์หมื่นไหม้
เสวยสุขโสดเสวยสวรรค์เพราะอยู่ ก็ดี
บอยู่เลยลาไท้ธิราชแล้วจักไป ฯ

________________________________

    เนื้อเรื่องในช่วงนี้ ตั้งแต่ปู่เจ้ารู้ว่าทำลายสิ่งคุ้มกันได้แล้วจึงใช้"สลาเหิน" ไปจนตอนพระลอดึงดื้อจะไปเองให้ได้
มีผู้เอาไปทำบทร้องเพลงไทยเดิมประเภท "ตับเรื่อง" ชื่อ "ตับพระลอ" แต่ที่ข้าพเจ้าฟังอยู่เปนของกรมศิลปากร ใช้ชื่อว่า "ตับพระลอคลั่ง" ทั้งการร้องแลทำนองเพลง ไพเราะกินใจยิ่งล้ำ
    อีกเพลงหนึ่งคือ "ลาวสวยรวย"


________________________________




ตับพระลอคลั่ง
(เริ่มเรื่องตั้งแต่ปู่เจ้าสมิงพรายรู้ว่าผีเมืองสรวงพ่ายแล้ว ไปจนถึงพระลอจะไปสู่สรองให้จงได้)

  "ฝ่ายสมิงยินแจ้งแห่งคำผี เคยยินดีสมมาดปรารถนา
มนต์พ่อปู่เสพประสิทธิ์วิทยา ใช้สลาเหินเร่ขึ้นเมฆี
ลอยลงตรงอาสน์ราชประทับ พลัดตกปับลงพานหมากพระศรี
พระโอษฐ์เปรี้ยวเสียวกระสันขึ้นทันที หยิบพระศรีเสวยยันสั่นพระองค์

  พระเริ่มในพระทัยป่วนหวนระลึก ให้รู้สึกเหลวไหลพระทัยหลง
เห็นเหมือนเพื่อนแพงมาแฝงองค์ แทบจะตรงเข้าประโลมโฉมสุดา
หายวับกลับนึกรู้สึกพระสติ พระจึงตริตรองเล่ห์เสน่หา
จะตามไปให้ประสบพบพา พระมารดาคงจะห้าม ไม่ตามใจ
พึงทูลปดลดเลี้ยวว่าเที่ยวป่า หากจะว่าตอแหลพอแก้ไข
ถึงจะรู้แน่ชัดในหทัย ก็อย่าให้ออกจากปากของเรา
จึงทูลสารมารดาว่าข้าบาทขอลาองค์มาตุราชไปเที่ยวเขา
ชมโคถึกมฤคาพนาเนา พอบรรเทาอารมณ์ได้ชมเชย

(หญิงร้อง)  พระชนนีดีใจเห็นได้เค้า
พระชนนีดีใจเห็นได้เค้า จึงปลอบเล้าโลมพระลอว่าพ่อเอ๋ย
บอกมารดาว่าพระทัยไม่เสบย
บอกมารดาว่าพระทัยไม่เสบย ขอลาเลยชมดงเล่นพงไพร
แม่นึกแคลง แคลงจิตคิดไปเที่ยว
แม่นึกแคลง แคลงจิตคิดไปเที่ยว เกรงจะเลี้ยวหลงชิดพิสมัย
บอกแม่แท้จริงทุกสิ่งไป
บอกแม่แท้จริงทุกสิ่งไป ให้แม่ได้ทราบเสียบ้างคลางจางจินต์

  ฟังคำงามขำจึงเอ่ยร่ำไข ฟังคำงามขำจึงเอ่ยพร่ำไข
อยากจะไปประสบสองแม่น้องหญิง อยากจะไปประสบสองแม่น้องหญิง
เยี่ยมแม่เพื่อนเยือนแม่แพง จึงแจ้งจริง
ถ้าขืนนิ่งนอนเปล่า เอย สูเพื่อนเอย ยิ่งเศร้าใจ
(หญิงรับ) (เอยเจ้าสู เจ้าสูเพื่อนเอย
เอยเจ้าสู เจ้าสูเพื่อนเอย อกพระลอไม่เสบย อยากจะไปเชยสองนารี)
ขอลาบาทมาตตุรงพระทรงลักษณ์ ขอลาบาทมาตตุรงพระทรงลักษณ์
ช่วยชูฟักชีวิตที่คิดไว้ ช่วยชูฟักชีวิตที่คิดไว้
จะมาหาพระเกิดกำเหนิดเกิดกาย มิได้หน่ายแหนงคุณ
เอ๋ย เจ้าสูเพื่อนเอย ที่จุนเจือ
(เอยเจ้าสู เจ้าสูเพื่อนชัง
เอยเจ้าสู เจ้าสูเพื่อนชัง อกพระลอแทบจะพังคลุ้มคลั่งบ่เสบย)

(หญิง) ซักทางตามพระลูกผูกวิตก นางขอดอกโหยไห้อาลัยเหลือ
จากเขตประเทศสถานทิ่งหว่านเครือไปแนบเนื้อนุชนางต่างนคร
เขาก็เป็นจอมนิเวศน์เกศกษัตริย์ จะประหวัดลอบชมสมสมร
เห็นยากล้นคณนาแสนอาวรณ์ แม่ทุกข์ร้อนคิดเห็นไม่เป็นการ

  เมื่อเอยเมื่อนั้น พระลอดิลกเลิศงามเฉิดฉันท์
(หญิงรับ) (เอย เอ๋ยช่ออัญชัน พระลอโศกศัลย์พระทัยไม่เสบย
เอ๋ยช่ออัญชัน พระลอโศกศัลย์พระทัยไม่เสบย)
สถิตย์ยังห้องแก้วแพรวพรรณกับองค์ทรงธรรม์ชนนี
(เอย เอ๋ยช่อจำปี พระลอโศกีถึงเพื่อนแพงเอย
เอ๋ยช่อจำปี พระลอโศกีถึงเพื่อนแพงเอย)
ร้อนรุ่มกลุ้มใจพระทัยหลง งวยงงด้วยอำนาจเสน่ห์ผี
(เอย เอ๋ยช่อนนทรี เพื่อนแพงยอดชีวีของพี่นี้เอย
เอ๋ยช่อนนทรี เพื่อนแพงยอดชีวีของพี่นี้เอย)
ได้ยินเหมือนเพื่อนแพงแฝงอินทรีย์มาทูลภูมีให้ไคลคลา
(เอย เอ๋ยช่อจำปา พระลอจะลาจากเวียงแล้วเอย
เอ๋ยช่อจำปา พระลอจะลาจากเวียงแล้วเอย)"

________________________________



ลาวสวยรวย

  "เจ้าณหัวทรงพระโฉมเฉิดฟ้า ชื่นแหล่งหล้าละลานใจ
พระเลืองเลิศซะลอหน่อไท้ ยอดอาลัยแสนสาวสนมเธอ
ยลสาวสวรรค์ขวัญเนตรภูเบศร์บรรเลง เสนาะเพลงบรรเลอนฤโทษโสตเสนอ
สาวจับระบำ จับระบำบำเรอ
ไฉนพระลอราชเธอบ่มิเอื้อนออเออ เอาแต่เพ้อฤทัยถอน

  ฤทธิ์รูปลมโซรมพระผู้สึง รัดร้อนรึงกลไฟโหม
แว่วแต่ซอล่อคะนึง คะนึงโลม เห็นแต่โฉมเพื่อนแพงสองอร
มิไยเล่าโฉมเฉลาสาวสุรางค์เล่นดุริยางค์เย้ายวนรำฟ้อน
ถวายกร ถวายกรแย้มสรวล
ระริกระรื่นชื่นชวน โอ้พระเอยอักอ่วน บ่หวนจะหรรษา"




คือ "แม่"
พระนางบุญเหลือครวญคร่ำ พร่ำสอน อวยพรชัย

    ตอนนี้แสดงถึง ความเป็น แลสิ่งที่เรียกว่า "แม่" ได้สมบูรณ์นักแล้
เพื่อความต่อเนื่องของอารมณ์ จึ่งรวบไว้เสียในที่เดียว ทีเดียว
    - แต่จะทรงครรภ์ แลทำนุถนอมตราบเติบใหญ่กายา
    - ประจงเชยชมลูกยา
    - ย้ำสอนการครองตนครองคน ของกษัตริย์ขัตติยา
    - อวยพรให้ลุที่ปอง แลคืนรอดปลอดพ้นปวงโรคะภยา
________________________________

โคลง ๔
    o ทาบตีอกไห้พ่างเมือมรณ์
คำแม่สอนสุดสอนบ่ได้
รอยกรรมราชจักหลอนจักล่อ พระฤๅ
รู้เท่ารู้เว้นไว้กลัดกลุ้มมัวมน ฯ
    o จำศีลบท่อยถ้อยเจ็ดวัน ลูกเอย
คลังคลี่ทานผลปันเท่าฟ้า
ขอมีลูกใจธรรม์ชายชอบ ใจนา
แม่จึ่งได้เจ้าหล้าแม่แล้สุดใจ แม่เอย ฯ
    o สิบเดือนอุ้มท้องพระลอลักษณ์
สงวนบ่ลืมตนสักหนึ่งน้อย
ตราบพระปิ่นไตรจักรเสด็จคลอด มานา
ถนอมอาบอุ้มค้อยค้อยลูบเลี้ยงรักษา ฯ
    o แลวันสามคาบป้อนเปนนิตย์
บมิให้ใครทำผิดแผกเจ้า
แสนสงวนคู่ชีวิตฤๅใคร่ กลายเลย
เทียรผดุงคุ้งเท้าตราบรู้เสวยเอง ฯ
    o บัญจงกับเข้าแต่งของเสวย
บมิได้เลินเล่อเฉยหนึ่งน้อย
สรรพเครื่องพระลูกเฮยไตรตรวจ แต่งนา
บวางใจกึ่งก้อยแก่ผู้ใดทำ ฯ
    o แต่น้อยแม่พร่ำเลี้ยงรักษา พ่อนา
จงเจริญชนม์มาตราบได้
สมบัติผ่านภูวดาถวัลยราช
ฤๅพ่อจำจากให้แม่นี้ตรอมตาย ฯ
    o คงชีพหวังได้พึ่งภูมี พ่อแล
ม้วยชีพหวังฝากผีพ่อได้
ดังฤๅพ่อจักลีลาจาก อกนา
ผีแม่ตายจักได้ฝากให้ใครเผา ฯ
    o สุดใจสุดแม่ห้ามภูธร
สอนบ่ฟังแม่สอนจักเต้า
หนักใจหนักอาวรณ์ทุกข์ใหญ่ หลวงนา
แม่อยู่ตั้งแต่เศร้าโศกร้อนฤๅเสบย ฯ

โคลง ๔
    o ลูกเอยจากแม้โอ้กรรมใด นาพ่อ
ตั้งแต่คิดเด็จไปสู่สร้อย
แม่เดียวอยู่อาไลยทนเทวษ แลนา
มาแม่จะชมน้อยหนึ่งให้คลายใจ ฯ
    o ชมปรางชมผากเผ้าริมไร เกศนา
เชยปากตาตรูไตรเพริศพริ้ง
ชมพักตรดั่งแขไขขวัญเนตร
บพิตรพ่องามสิงคลิ้งจูบแก้มเชยกรรณ ฯ
    o จูบนาสิกแก้วแม่หอมใด ดุจนา
จูบเคียงคางคอใจจักขว้ำ
จูบเนื้อจูบนมใสเสาวภาคย์ พระเอย
จูบไหล่หลังอกซ้ำจูบข้างเชยแขน ฯ
    o จักเชยพระลูกถ้วนสรรพางค์
พระลูกประนมกรพลางจึ่งพร้อง
พระควรจูบแต่กลางกระหม่อม ไส้นา
แก้มเกศพระเจ้าต้องสั่งข้าพระควร ฯ
    o ลูกรักแก้วแม่เอ้ยปรานี แม่รา
พระบาทบงกชศรีใส่เกล้า
ฤๅบาปิ่นภูมีทัดแม่ ไยพ่อ
ขอจูบบัวบาทเจ้าสั่งเจ้าจอมใจ ฯ
    o พระรักพระว่าไว้เหนือหัว
ข้าบาทบงกชกลัวบาปได้
พระคุณโปรดเปนตัวสอนสั่ง มานา
ข้าไป่แทนคุณไท้เท่าเส้นใยยอง ฯ
    o รอยกรรมจักจากเจ้าจอมกษัตริย์
รอยบาปเพรงจำพลัดออกท้าว
พระคุณไป่แทนขัดใจดั่ง นี้นา
ยาหยูกเขาโน้มน้าวลูกให้ใหลหลง ฯ

ร่าย
    o เมื่อนั้นอนงคเทพี ชนนีนาฎราชรันทด สลดหฤทัยดั่งจะหว่า ท้าวธก็ว่าเจ้าลอลักษณ์ ลูกรักเจ้าแม่นา รักยิ่งตายิ่งตัว รักยิ่งหัวยิ่งชีพ แต่นี้จอมทวีปแม่จะจาก พรากแม่พรากพระบุรี ศรีกษัตริย์มีเจ็ดสิ่ง พระมิ่งแม่จงจำ ยำคำแม่อย่าคลา รีตท้าวพระยาอย่าคลาด อย่าประมาทลืมตน อย่ารคนคนเท็จ ริรอบเสร็จจึ่งทำ คิดทุกคำจึ่งออกปาก อย่าให้ยากแก่ใจไพร่ ไต่ความเมืองจงตรง ดำรงพิภพให้เย็น ดับเข็ญนอกเข็ญใน ส่องใจดูทุกกรม อย่างมชมความเท็จ ริรอบเสร็จเกื้อทางธรรม์ ทีจะกันกันจงหมั้น ทีจะคั้นคั้นจงเปนกล ส่องต้นหนคนใช้ เลือกหาใจอันสัตย์ ดัดมนตรีโดยยุกติ์ ปลุกใจคนให้หาญ ผลาญเพรียงไพร่เพรียงเมือง อาญาเรื่องเรื้อยราษฎร์ กันนิกรอาจเกื้อไพรี ดับกลีอย่าให้ลุก อย่าชิงสุกก่อนห่าม อย่าล่ามม้าสองปาก อย่าลากพิษตามหลัง อย่าให้คนชังลักแช่ง แต่งคนให้คนรัก ชักชวนคนสู่ฟ้า เบื้องหน้าเทพยอยศ จงปรากฎชอบแล้ว อย่าได้แคล้วรำพึง คำนึงอย่ารู้มลาย จงอย่าหายยศพ่อ ต่อม้วยฟ้าหล้าสวรรค์ กัลปประลัยอย่ารู้ลาญ ภูบาลเจ้าจงจำ ตามคำแม่โอวาท พ่อสุดสวาทแก่แม่เฮย จงสวัสดิ์แก่เจ้าเทอญ ฯ

โคลง ๔
    o จงเจริญศรีสวัสดิ์เรื้องเดชา
ทุกข์โศกโรคไภยาอย่าพ้อง
ศัตรูหมู่พาลาพาลพ่าย ฤทธิ์พ่อ
เสวยสุขอย่าเคืองข้องขุ่นแค้นอารมณ์ ฯ
    o ขอลุสมสบสร้อยสองนาง
ขออย่าลุเล่ห์ทางเสน่ห์นั้น
ขอคิดอย่าใจจางคำแม่ สอนนา
ขอพ่อเร็วคืนกั้นขอบแคว้นไกรกรุง ฯ
    o ขอฝากฝูงเทพไท้ภูมินทร์
อากาศพฤกษาสินธุ์ป่ากว้าง
อิศวรนรายณ์อินทร์พรหมเมศ ก็ดี
ช่วยรักษาเจ้าช้างอย่าให้มีไภย ฯ
    o ได้คืนชีวิตเจ้าจอมกษัตริย์
จักแต่งธงธวัชฉัตรเพริศแพร้ว
เทียนทองระย้ารัตนงามชื่น ตาแฮ
เป็ดไก่บายศรีแก้วแต่งแก้สบสถาน ฯ

โคลง ๒
    o ท้าวฟังสารท่านไท้บังคมก้มกราบไหว้
รับถ้อยคำสอน ฯ 
   o รับพรใส่เศียรไว้แก้เกศเช็ดบาทไท้
ท่านท้าวชนนีท่านนา ฯ
    o กรชลีเหนือเกล้าลาสมเด็จท้าวเจ้า
สู่ท้องโรงธาร ฯ 

________________________________


(อ่านต่อ)


0 Comments:

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home