จากสรวง
ร่ำลามเหสีแลสนมนางใน
ในตอนร่ำลามเหสี มีโคลงบทหนึ่งซึ่งคล้ายกับใน "ลิลิตเตลงพ่าย" (ปัจจุบันใช้ "ตะเลง") ตอนพระมหาอุปราชเข้าไปล่ำลาพระมเหสีเพื่อสู่ศึกโยธยา ซึ่งข้าพเจ้าออกจะชอบมากกว่า อยู่เล็กน้อย อ่านช่วงนี้ทีไรก็นึกสงสารพระมหาอุปราชา
ความว่า..
o จำใจจำจากเจ้า | จำจร |
จำนิราศแรมสมร | แม่ร้าง |
เพราะเพื่อจักไปรอน | อริราช แลแม่ |
จำทุกข์จำเทวศว้าง | สวาดิว้าหวั่นถวิล ฯ |
ร่าย
o โองการสั่งมนตรี ผู้ภักดีต่างใจ อยู่ระไวต่างองค์ ดำรงรั้งรักษา ภาราเราจงบำรุง ผดุงราษฎร์อย่าให้เคือง ศัตรูเมืองเร่งบำบัด หนึ่งจอมกษัตริย์แก่นไท้ ถนอมบาทบงกชไว้ เหมือนเมื่อเที้ยรกูยัง ฯ
ร่าย
o แล้วตรัสสั่งขุนพล พวกพหลเหี้ยมหาญ เร่งเตรียมการพยุหบาตร จัตุรงคราชเรืองรบ ครบทุกหมู่ทุกหมวด ตรวจให้สรรพโดยเขบ็จ จัดให้เสร็จโดยขบวร กูจักยวรยาตรเต้า ในวันรุ่งพรุ่งนี้เช้า แต่งตั้งเตรียมพลัน ฯ
โคลง ๒
o เสร็จผายผันสู่ห้อง | เรือนหลวงโลมลาน้อง |
อยู่เจ้าจงดี | แม่ฮา ฯ |
o เรียมจะลีลาศเต้า | อยู่แม่อยู่อย่าเศร้า |
ไป่ช้าคืนสม | แม่แล ฯ |
o ลักษณวดีกรมทรวงสร้อย | ทุกข์แทบเลือดตาย้อย |
เนตรน้ำนองนูน ฯ | |
o นบนิ้วทูลเจ้าหล้า | พระองค์อาจละข้า |
บาทไว้ผู้เดียว | พระเอย ฯ |
o ทางไกลเปลี่ยวสัตว์ร้าย | ผีคนองหลอนคล้าย |
ทำเล่ห์ให้เห็นตัว ฯ | |
o กลัวศัตรูฝ่ายหน้า | หลังพระเสียใจข้า |
ดุจดับแก้วสองดวง ฯ | |
o ขอห้ามหวงเจ้าหล้า | อยู่ปกเกศเกล้าข้า |
พระบาทท้าวอย่าไป ฯ |
สยายเกศเช็ดบาทไท้ ธิราชไว้เปนเฉลิม
โคลง ๔
o สิ่งใดในโลกล้วน | อนิจจัง |
คงแต่บาปบุญยัง | เที่ยงแท้ |
คือเงาติดตัวตรัง | ตรึงแน่น อยู่นา |
ตามแต่บุญบาปแล้ | ก่อเกื้อรักษา ฯ |
o จากนุชเรียมขุ่นไข้ | อารมณ์ เรียมนา |
จากที่สมไปสม | เกลือกแคล้ว |
ผิจักอยู่อกกรม | เกรียมสวาท นาแม่ |
จำพี่จำจากแก้ว | ไป่ช้าคืนสม ฯ |
o พระไปแม้พระได้ | สมสอง |
ไหนจะคืนคงครอง | ครอบเกล้า |
อย่าคิดอย่าจงปอง | สองปล่อย มาฤๅ |
สองจักลองโลมเล้า | อยู่ว้าวังขัง ฯ |
o จำจากใช่จากด้วย | ชังสมร แม่นา |
จากแม่รักฤๅรอญ | ขาดได้ |
เด็จบัวแม่เด็จอร | ยังเยื่อ ใยนา |
ไปบ่ลืมน้องไท้ | อย่าร้อนรนทรวง ฯ |
o สุดทานสุดทัดท้าว | สุดบุญ |
ทรงโศกพักตรซบซุน | ร่ำไห้ |
เหนือบาทยุคลขุน | ครวญคร่ำ ไปนา |
สยายเกศเช็ดบาทไท้ | ธิราชไว้เปนเฉลิม ฯ |
o เห็นโศกเพิ่มโศกท้าว | กลอยนาง |
พลางพระโลมนุชพลาง | ปลอบน้อง |
อย่าโศกจะเปนลาง | ในพฤกษ์ ไพรนา |
ดับทุกข์ดับเทวษข้อง | ขุ่นแค้นเสียโฉม ฯ |
o เสร็จโลมเสร็จสั่งเจ้า | จอมสนม |
สนมอยู่อย่าเกรียมกรม | อกไหม้ |
ปวงนางรับคำคม | บัวบาท ท่านนา |
ซบสอึกสอื้นไห้ | แซร่ซร้องแรงโรย ฯ |
o เสียงโหยเสียงไห้มี่ | เรือนหลวง |
ขุนหมื่นมนตรีปวง | ป่วยซ้ำ |
เรือนราษฎร์ร่ำตีทรวง | ทุกข์ทั่ว กันนา |
เมืองจะเย็นเปนน้ำ | ย่อมน้ำตาครวญ ฯ |
o เห็นไห้ทุกหมู่ถ้วน | หญิงชาย |
ใจสั่นรันทดกาย | ท่านไท้ |
สูเอยอย่ากรรหาย | เหิมโศก นักนา |
ทุกข์นักมักเกิดไข้ | มักไข้พลันตาย ฯ |
ในตอนนี้กล่าวถึงเรื่องภายใน แลบรรยายการจัดทัพไว้อย่างละเอียด
เมื่ออ่านช่วงนี้จึงทำให้เห็นคล้อยตามที่ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ประทานอธิบายไว้ อันปรากฏในตอน "คำนำ" ที่ว่า... "... ผู้แต่งลิลิตพระลอเป็นผู้รู้ราชประเพณีและการเมือง ต้องเป็นบุคคลชั้นสูงอยู่ในราชสำนัก ประกอบทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญอักษรศาสตร์... " ได้เปนอย่างดี
ร่าย
o โศกเสื่อมคลายใจราช เสร็จสั่งนาฎสั่งสนม ถ้วนทุกกรมกำนัล ท้าวธบทันไสยา แสงจันทราโอภาส ดาราดาษดารก ตกต่ำคล้อยเจียนรุ่ง ผกายพรึกพุ่งอัมพรา ไก่ตื่นตาปรบปรือ ปีกกระพือขันเร้า เสียงดุเหว่าเกริ่นร้อง เสด็จสู่ห้องบังคน นางถวายชลเอางาร ภูบาลสู่ที่สรง ชำระพระองค์บนาน ทรงสุคนธ์ธารกลิ่นลลุง ปรุงปนทองธารทรง ผจงสนับเพลาบวร ภูษาภรณ์เลื่อมลาย รัดพัสตรพรายไพจิตร พิศชายไหวยยาบ ชายแครงคาบเครือวัลย์ พิพิธพรรณเสื้อสนอบ รัดอุระรอบเรืองรอง สังวาลตรองตาบประดับ ทับทรวงแสงร่วงรุ้ง พลอยเพ็ชรพุ่งยรรยง ทรงทองกรจำรัส พาหุรัดรูปมังกรกลาย ธำมรงค์พรายเพริศแพร้ว มกุฎแก้วแสงใส ทรงพิไชยอาวุธเสร็จ บพิตรเสด็จนวยนาด ดั่งพระยาราชไกรสร จากศิขรคูหารัตน์ บัดถึงเกยบมินาน ขุนช้างชาญควาญขับ ประทับเทียบเกยแก้ว ทรงคอคชสารแล้ว เคลื่อนแคล้วพลพฦนท์ ฯ
โคลง ๒
o แตรสังข์พิณพาทย์ฆ้อง | เสียงประโคมครื้นก้อง |
แหล่งหล้ากรุงไกร ฯ |
โคลง ๔
o พระยาไชยนุภาพล้ำ | เลิศเหลือ |
ชาญชำนิเศิกเสือ | ปราบแผ้ว |
งามสรรพลักษณเจือ | ใจราช สงวนนา |
ข่ายภู่รัตคนแพร้ว | เพริศพร้อมดาวทอง ฯ |
o สองขอยอยศไท้ | มหิมา |
ดูดั่งองค์อมรา | สู่หล้า |
พาหนะดุจคเชนทรา | จอมเทพ เปรียบฤๅ |
พลดั่งพลหยาดฟ้า | แหล่งหล้าสรรเสริญ ฯ |
ร่าย
o ธงหน้าเดิรนำพล ธงโบกบนสัญญา เคลื่อนพลดาโดยด่วน ถ้วนทุกหมู่ทุกหมวด ขุนตำรวจสารวัด จัดแจงเดิรคู่เคียง ม้าเดิรเรียงเดิรราย ขยายระยะโดยควร นายถือทวนหมายมาด ภู่แดงดาษปลิวปลาย สพายแล่งศรมหิมา เครื่องอาชายรรยง งามบรรจงเพริศแพร้ว ล้วนแก้วก่องแกมมาศ อัศวชาติสินธพ แลเลิศลบเผ่นผยอง ลองเชิงร้องเครงครื้น สู้ศึกยืนบ่มิพ่าย นายขี่ขับเข้มแขง ล้วนตำแหน่งยศเจ้าหล้า ขุนม้าหมื่นม้าครัน พันม้านายม้ามาก พิศโสภาคย์โสภา มากดาษดาแต่งแง่ แผ่ตนตามเจ้าหล้า แห่ไปหน้าก็มาก แห่หลังหลากเหลือหลาย แห่ฝ่ายซ้ายดาษดา แห่ฝ่ายขวาดาษเดียร พิศเพียนพร้อมงามสรรพ คณนานับบมิถ้วน ล้วนม้าลักษณ์ม้าเลิศ เฉกโฉมเฉิดแหล่งหล้า พิศยิ่งงามถ้วนหน้า ยิ่งม้าเมืองบน ฯ
ร่าย
o แลพวกพลยรรยง ธงนำพลยยับ ดับกองร้อยกองพัน แห่กองกันกองแล่น แห่แหนแน่นขุนหมื่น ดูระรื่นมหิมา คณนาไปสล้าง พวกพลด้างพลดาบ พลกำซาบธนู ดูพลหอกพลห้าว ดูพลง้าวพลงาม พลเขนตามเสโลห์ โตมรสลอนปืนไฟ ย่อมพลไกรโอ่อ่า งามสง่าพรรณราย ไพร่เดิรนายเดิรดับ สำรับถ้วนขุนหาญ ขี่สารสูงแกล้วกล้า ดาบหน้าสลาบครุฑควร เดิรโดยขบวนแหนแห่ นายแวงแหล่เหลือหลาย นายแวงซ้ายแวงขวา นายแวงหน้าแวงหลัง แวงจัตุลังคบาท รักษาราชนฤบดี นายแวงสี่ตีนช้าง ข้างพระคชกรรกง แวงองครักษ์ตำรวจ กวดขันแหนแห่ห้อม ล้อมพระคชสำหรับ ขับทวิรถรัตนาสน์ พลหน้าดาษดูยง อลงกตกุญชร บวรวิภูษา เครื่องราชาธิราช งามถึงขนาดเพริศพร้อม งามเครื่องงามพลห้อม เสด็จไท้พระบาท ท่านนา ฯ