ลิลิตพระลอ: จากสรวง
Name:
Location: Bangkok, Thailand

Friday, February 2, 2007

จากสรวง


พระลอสั่งงานเมือง เตรียมทัพ
ร่ำลามเหสีแลสนมนางใน

    ในตอนร่ำลามเหสี มีโคลงบทหนึ่งซึ่งคล้ายกับใน "ลิลิตเตลงพ่าย" (ปัจจุบันใช้ "ตะเลง") ตอนพระมหาอุปราชเข้าไปล่ำลาพระมเหสีเพื่อสู่ศึกโยธยา ซึ่งข้าพเจ้าออกจะชอบมากกว่า อยู่เล็กน้อย อ่านช่วงนี้ทีไรก็นึกสงสารพระมหาอุปราชา
ความว่า..

    o จำใจจำจากเจ้าจำจร
จำนิราศแรมสมรแม่ร้าง
เพราะเพื่อจักไปรอนอริราช แลแม่
จำทุกข์จำเทวศว้างสวาดิว้าหวั่นถวิล ฯ

________________________________

ร่าย
    o โองการสั่งมนตรี ผู้ภักดีต่างใจ อยู่ระไวต่างองค์ ดำรงรั้งรักษา ภาราเราจงบำรุง ผดุงราษฎร์อย่าให้เคือง ศัตรูเมืองเร่งบำบัด หนึ่งจอมกษัตริย์แก่นไท้ ถนอมบาทบงกชไว้ เหมือนเมื่อเที้ยรกูยัง ฯ

ร่าย
   o แล้วตรัสสั่งขุนพล พวกพหลเหี้ยมหาญ เร่งเตรียมการพยุหบาตร จัตุรงคราชเรืองรบ ครบทุกหมู่ทุกหมวด ตรวจให้สรรพโดยเขบ็จ จัดให้เสร็จโดยขบวร กูจักยวรยาตรเต้า ในวันรุ่งพรุ่งนี้เช้า แต่งตั้งเตรียมพลัน ฯ

โคลง ๒
    o เสร็จผายผันสู่ห้องเรือนหลวงโลมลาน้อง
อยู่เจ้าจงดีแม่ฮา ฯ
    o เรียมจะลีลาศเต้าอยู่แม่อยู่อย่าเศร้า
ไป่ช้าคืนสมแม่แล ฯ
    o ลักษณวดีกรมทรวงสร้อยทุกข์แทบเลือดตาย้อย
เนตรน้ำนองนูน ฯ 
    o นบนิ้วทูลเจ้าหล้าพระองค์อาจละข้า
บาทไว้ผู้เดียวพระเอย ฯ
    o ทางไกลเปลี่ยวสัตว์ร้ายผีคนองหลอนคล้าย
ทำเล่ห์ให้เห็นตัว ฯ 
    o กลัวศัตรูฝ่ายหน้าหลังพระเสียใจข้า
ดุจดับแก้วสองดวง ฯ 
    o ขอห้ามหวงเจ้าหล้าอยู่ปกเกศเกล้าข้า
พระบาทท้าวอย่าไป ฯ 


สยายเกศเช็ดบาทไท้    ธิราชไว้เปนเฉลิม

โคลง ๔
    o สิ่งใดในโลกล้วนอนิจจัง
คงแต่บาปบุญยังเที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรังตรึงแน่น อยู่นา
ตามแต่บุญบาปแล้ก่อเกื้อรักษา ฯ
    o จากนุชเรียมขุ่นไข้อารมณ์ เรียมนา
จากที่สมไปสมเกลือกแคล้ว
ผิจักอยู่อกกรมเกรียมสวาท นาแม่
จำพี่จำจากแก้วไป่ช้าคืนสม ฯ
    o พระไปแม้พระได้สมสอง
ไหนจะคืนคงครองครอบเกล้า
อย่าคิดอย่าจงปองสองปล่อย มาฤๅ
สองจักลองโลมเล้าอยู่ว้าวังขัง ฯ
    o จำจากใช่จากด้วยชังสมร แม่นา
จากแม่รักฤๅรอญขาดได้
เด็จบัวแม่เด็จอรยังเยื่อ ใยนา
ไปบ่ลืมน้องไท้อย่าร้อนรนทรวง ฯ
    o สุดทานสุดทัดท้าวสุดบุญ
ทรงโศกพักตรซบซุนร่ำไห้
เหนือบาทยุคลขุนครวญคร่ำ ไปนา
สยายเกศเช็ดบาทไท้ธิราชไว้เปนเฉลิม ฯ
    o เห็นโศกเพิ่มโศกท้าวกลอยนาง
พลางพระโลมนุชพลางปลอบน้อง
อย่าโศกจะเปนลางในพฤกษ์ ไพรนา
ดับทุกข์ดับเทวษข้องขุ่นแค้นเสียโฉม ฯ
    o เสร็จโลมเสร็จสั่งเจ้าจอมสนม
สนมอยู่อย่าเกรียมกรมอกไหม้
ปวงนางรับคำคมบัวบาท ท่านนา
ซบสอึกสอื้นไห้แซร่ซร้องแรงโรย ฯ
    o เสียงโหยเสียงไห้มี่เรือนหลวง
ขุนหมื่นมนตรีปวงป่วยซ้ำ
เรือนราษฎร์ร่ำตีทรวงทุกข์ทั่ว กันนา
เมืองจะเย็นเปนน้ำย่อมน้ำตาครวญ ฯ
    o เห็นไห้ทุกหมู่ถ้วนหญิงชาย
ใจสั่นรันทดกายท่านไท้
สูเอยอย่ากรรหายเหิมโศก นักนา
ทุกข์นักมักเกิดไข้มักไข้พลันตาย ฯ

________________________________


คือ ขบวนทัพหลวง

    ในตอนนี้กล่าวถึงเรื่องภายใน แลบรรยายการจัดทัพไว้อย่างละเอียด
    เมื่ออ่านช่วงนี้จึงทำให้เห็นคล้อยตามที่ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ประทานอธิบายไว้ อันปรากฏในตอน "คำนำ" ที่ว่า...
"... ผู้แต่งลิลิตพระลอเป็นผู้รู้ราชประเพณีและการเมือง ต้องเป็นบุคคลชั้นสูงอยู่ในราชสำนัก ประกอบทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญอักษรศาสตร์... " ได้เปนอย่างดี
________________________________

ร่าย
    o โศกเสื่อมคลายใจราช เสร็จสั่งนาฎสั่งสนม ถ้วนทุกกรมกำนัล ท้าวธบทันไสยา แสงจันทราโอภาส ดาราดาษดารก ตกต่ำคล้อยเจียนรุ่ง ผกายพรึกพุ่งอัมพรา ไก่ตื่นตาปรบปรือ ปีกกระพือขันเร้า เสียงดุเหว่าเกริ่นร้อง เสด็จสู่ห้องบังคน นางถวายชลเอางาร ภูบาลสู่ที่สรง ชำระพระองค์บนาน ทรงสุคนธ์ธารกลิ่นลลุง ปรุงปนทองธารทรง ผจงสนับเพลาบวร ภูษาภรณ์เลื่อมลาย รัดพัสตรพรายไพจิตร พิศชายไหวยยาบ ชายแครงคาบเครือวัลย์ พิพิธพรรณเสื้อสนอบ รัดอุระรอบเรืองรอง สังวาลตรองตาบประดับ ทับทรวงแสงร่วงรุ้ง พลอยเพ็ชรพุ่งยรรยง ทรงทองกรจำรัส พาหุรัดรูปมังกรกลาย ธำมรงค์พรายเพริศแพร้ว มกุฎแก้วแสงใส ทรงพิไชยอาวุธเสร็จ บพิตรเสด็จนวยนาด ดั่งพระยาราชไกรสร จากศิขรคูหารัตน์ บัดถึงเกยบมินาน ขุนช้างชาญควาญขับ ประทับเทียบเกยแก้ว ทรงคอคชสารแล้ว เคลื่อนแคล้วพลพฦนท์ ฯ

โคลง ๒
    o แตรสังข์พิณพาทย์ฆ้องเสียงประโคมครื้นก้อง
แหล่งหล้ากรุงไกร ฯ 

โคลง ๔
    o พระยาไชยนุภาพล้ำเลิศเหลือ
ชาญชำนิเศิกเสือปราบแผ้ว
งามสรรพลักษณเจือใจราช สงวนนา
ข่ายภู่รัตคนแพร้วเพริศพร้อมดาวทอง ฯ
    o สองขอยอยศไท้มหิมา
ดูดั่งองค์อมราสู่หล้า
พาหนะดุจคเชนทราจอมเทพ เปรียบฤๅ
พลดั่งพลหยาดฟ้าแหล่งหล้าสรรเสริญ ฯ

ร่าย
    o ธงหน้าเดิรนำพล ธงโบกบนสัญญา เคลื่อนพลดาโดยด่วน ถ้วนทุกหมู่ทุกหมวด ขุนตำรวจสารวัด จัดแจงเดิรคู่เคียง ม้าเดิรเรียงเดิรราย ขยายระยะโดยควร นายถือทวนหมายมาด ภู่แดงดาษปลิวปลาย สพายแล่งศรมหิมา เครื่องอาชายรรยง งามบรรจงเพริศแพร้ว ล้วนแก้วก่องแกมมาศ อัศวชาติสินธพ แลเลิศลบเผ่นผยอง ลองเชิงร้องเครงครื้น สู้ศึกยืนบ่มิพ่าย นายขี่ขับเข้มแขง ล้วนตำแหน่งยศเจ้าหล้า ขุนม้าหมื่นม้าครัน พันม้านายม้ามาก พิศโสภาคย์โสภา มากดาษดาแต่งแง่ แผ่ตนตามเจ้าหล้า แห่ไปหน้าก็มาก แห่หลังหลากเหลือหลาย แห่ฝ่ายซ้ายดาษดา แห่ฝ่ายขวาดาษเดียร พิศเพียนพร้อมงามสรรพ คณนานับบมิถ้วน ล้วนม้าลักษณ์ม้าเลิศ เฉกโฉมเฉิดแหล่งหล้า พิศยิ่งงามถ้วนหน้า ยิ่งม้าเมืองบน ฯ

ร่าย
    o แลพวกพลยรรยง ธงนำพลยยับ ดับกองร้อยกองพัน แห่กองกันกองแล่น แห่แหนแน่นขุนหมื่น ดูระรื่นมหิมา คณนาไปสล้าง พวกพลด้างพลดาบ พลกำซาบธนู ดูพลหอกพลห้าว ดูพลง้าวพลงาม พลเขนตามเสโลห์ โตมรสลอนปืนไฟ ย่อมพลไกรโอ่อ่า งามสง่าพรรณราย ไพร่เดิรนายเดิรดับ สำรับถ้วนขุนหาญ ขี่สารสูงแกล้วกล้า ดาบหน้าสลาบครุฑควร เดิรโดยขบวนแหนแห่ นายแวงแหล่เหลือหลาย นายแวงซ้ายแวงขวา นายแวงหน้าแวงหลัง แวงจัตุลังคบาท รักษาราชนฤบดี นายแวงสี่ตีนช้าง ข้างพระคชกรรกง แวงองครักษ์ตำรวจ กวดขันแหนแห่ห้อม ล้อมพระคชสำหรับ ขับทวิรถรัตนาสน์ พลหน้าดาษดูยง อลงกตกุญชร บวรวิภูษา เครื่องราชาธิราช งามถึงขนาดเพริศพร้อม งามเครื่องงามพลห้อม เสด็จไท้พระบาท ท่านนา ฯ
________________________________

0 Comments:

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home