ลิลิตพระลอ: พระลอเสี่ยงน้ำ
Name:
Location: Bangkok, Thailand

Friday, February 2, 2007

พระลอเสี่ยงน้ำ


ริมฝั่งแม่กาหลง
พระลอเสี่ยงน้ำ

    เมื่อข้ามแม่กาหลงแล้วลงสรง พระลอบังเกิดจิตคิดถึงพระมารดาขึ้นมาอย่าง ประหลาด "บาปสิ่งใดจำให้ ลูกร้อนใจถึง"
อีกทั้งละล้าละลังหวั่นไหว จะไปต่อหรือคืนหลังดี ตัดสินใจอธิษฐานเสี่ยงน้ำดูว่า หากไปต่อจะเปนเช่นไร...
นับเปนตอนที่สะเทือนใจอย่างยิ่งในลิลิตเรื่อง "พระลอ" นี้
    ในตอนนี้ เห็นว่าควรต้องฟังเพลง "ลาวครวญ" เสียก่อน จึงจะถึงใจได้อรรถรส
เนื้อร้องเพลง "ลาวครวญ" นี้ ข้าพเจ้าแกะจากเทปตลับเดียวกันกับเพลง "ลาวสวยรวย" ที่ได้กล่าวถึงในตอนก่อนๆ ขับร้องโดย อ.สุรางค์ ดุริยะพันธ์ ซึ่งเปนผู้ที่ข้าพเจ้าเห็นว่าขับร้องเพลงไทยเดิมได้เยี่ยมอย่างยากจักหาใดเทียบทัน


     = "ลาวครวญ" =

   "โอ้พระชนนีศรีแมนสรวง จะโศกทรวงเสียวรู้สึกระลึกถึง
ไหนทุกข์ถึงบิตุรงค์ทรงรำพึง ไหนโศกซึ้งถึงตูคู่หทัย
ร้อยชู้หรือจะสู้เนื้อเมียตน เมียร้อยคนหรือสู้พระแม่ได้
พระแม่เคยอยู่เยือกเย็น ไม่เห็นใคร หรือกลับไปสู่นครก่อนจะดี
พี่เลี้ยงตรองพลางสนองพระดำรัส เห็นชอบชัดเชิญคืนบุรีศรี
เฉลิมกรุงบำรุงประชาชี ใหัเป็นที่เกษมสุขสืบไป
โอ้บพิธ ยิ่งคิดยิ่งขัดข้อน ครั้นจะจรก็ห่วงนครใหญ่
ครั้นจะคืนก็เกรงคนไยไพ ว่าท่านไท้คร้านขลาด ประดาษชาย
นายแก้วนายขวัญนายขวัญพลันเสนอ ใครจะเพ้อครหาว่าเสียหาย
หรือไปหน่อยจึ่งค่อยเอื้อนอุบาย หมดฉินยินร้ายทุกทาง
มา กูจะเสี่ยงน้ำลองดู ผิว่ากูรอดฤทธิ์ผีสาง
น้ำใสจงไหลควะควั่งคว้าง กูอับปาง น้ำเฉนียนจงเวียนวน"


________________________________


ร่าย
    o ถึงแม่น้ำกาหลง ปลงช้างชิดติดฝั่ง นั่งสำราญรี่กัน แล้วธให้ฟันไม้ทำห่วง พ่วงเปนแพสรรพเสร็จ ธก็เสด็จข้าม แม่น้ำแล้วไส้ ให้แผ้วที่ประทับ ดุจสำหรับขุนด่าน แล้วท่านเสด็จสรง สีเผ้าผงชำระ สระพระเกศเสร็จแล้ว ใจราชคิดแคล้วแคล้ว ถึงท่านไท้มารดา ท่านนา ฯ

โคลง ๒
    o คิดปรานีออกไท้รอยราชละห้อยไห้
ถึงลูกแล้ณหัวลูกเอย ฯ

โคลง ๔
    o เจ็บรักเจ็บจากช้ำเจ็บเยียว ยากนา
เจ็บใคร่คืนหล้งเหลียวสู่หย้าว
เจ็บเพราะลูกมาเดียว แดนท่าน
เจ็บเร่งเจ็บองค์ท้าวธิราชร้อนใจถึง ลูกฤๅ ฯ
    o เจ็บถึงบิตุราชแล้วถึงกู เล่านา
เจ็บอยู่คนเดียวดูละห้อย
เจ็บเยียวราชศัตรูดูหมิ่น แคลนนา
เจ็บเร่งเจ็บค้อยค้อยชอบม้วยเมือมรณ์ ฯ
    o ร้อยชู้ฤๅเท่าเนื้อเมียตน
เมียแล่พันฤๅดลแม่ได้
ทรงครรภ์คลอดเปนคนฤๅง่าย เลยนา
เลี้ยงยากนักท้าวไท้ธิราชผู้มีคุณ ฯ
    o อย่าไปพหน้าจักคืนเมือ ฤๅพี่
หาสมเด็จบุญเหลือเลิศไท้
จรทกจรเทอญเขือวานช่วย ริรา
บาปสิ่งใดจำให้ลูกร้อนใจถึง ฯ

ร่าย
    o บัดนี้จึ่งสองนาย ถวายกรกชประนม บังคมทูลบมิช้า ว่าข้าบาทสรวมชีพ เจ้าจอมทวีปโองการ พระภูบาลจักเต้า เข้ายังเมืองมิ่งคืน ข้าบาทยืนยลชอบ อย่าเยียวลอบไปเลย ควรเสวยสวัสดิ์ครองด้าว ด้วยสมเด็จน้องท้าว ท่านไท้ชนนี ท่านเทอญ ฯ

โคลง ๔
    o จักไปจักเปลี่ยวข้างทรชน
ครั้นจะคืนเยียวคนกล่าวร้าย
ว่าท้าวปิ่นสากลใจขลาด นักนา
พูลโทษทุรยศหว้ายว่าร้ายแหนงตาย ฯ

โคลง ๓
    o สองนายเกลี้ยงกล่าวทูลว่านเรศูรท่านไท้
ใครจะเอื้อมติได้เท่าเผ้าฤๅมี พระเอย ฯ




โคลง ๔
    o จักไปสักน้อยหนึ่งจึ่งคืน นาพี่
หน้าก็ยืนหลังยืนชอบได้
เกรงเยียวแต่ผีขืนจำอยู่ ไส้นา
เยียวบ่คืนเห็นไท้ธิราชผู้มีบุญ ฯ
    o มากูจะเสี่ยงน้ำนองไป ปรี่นา
น้ำชื่อกาหลงไหลเชี่ยวแท้
ผิวกูจะคลาไคลบรอด คืนนา
น้ำจุ่งเวียนวนแม้รอดไส้จงไหล ฯ
    o ครั้นวางพระโอษฐน้ำเวียนวน อยู่นา
เห็นแก่ตาแดงกลเลือดย้อม
หฤไทยรทดทนทุกข์ใหญ่ หลวงนา
ถนัดดั่งไม้ร้อยอ้อมเท่าท้าวทับทรวง ฯ
    o บให้คนรู้เรื่องฝืนใจ อยู่นา
ขึ้นจากสรงเสด็จในอาสน์ไท้
ยังสุวรรณพพลาไชยใจดั่ง นี้นา
ปิดม่านละห้อยไห้ออกท้าวบุญเหลือ ลูกเอย ฯ
    o พระตายจงลูกได้เห็นผี ท่านนา
ผีลูกตายกษัตรีย์แม่ได้
เผาศพลูกอย่ามีอุจาด ราแม่
ฤๅบ่ร้างเผาผีไท้บ่ร้างได้เผาผี ลูกเอย ฯ

โคลง ๒
    o ลูกตายก็ตายแล้วเจ็บบเห็นหน้าแก้ว
เกิดเกล้ากูมา ฯ 
    o น้ำตาไหลหลั่งไห้เปนเลือดตกอกไหม้
ออกท้าวฤๅเห็นลูกเอย ฯ
    o ลางเข็ญเห็นแห่งน้ำอกลูกเพี้ยงผกขว้ำ
ออกท้าวใจบุญลูกเอย ฯ
    o เปนขุนยศยิ่งฟ้าฤๅบาปจำหว้ายหล้า
หล่มหล้มตนเดียว ฯ 
    o จะเหลียวเหลียวบ่ได้เหยียบแผ่นดินผิดไส้
อยู่เต็มบาทาพระเอย ฯ

โคลง ๔
    o เคยเปนจอมโลกเจ้าไอศวรรย์
ร้อยเอ็ดเมืองราชคัลคั่งเฝ้า
มาตกถึงกลางอรร-ณพแต่ เดียวนา
เยียวบเห็นหน้าเจ้าลูกแล้บเห็น ลูกเลย ฯ

________________________________


สืบเสาะสอดแนมตีสนิทชาวใน

     ให้นายแก้วนายขวัญ สืบเสาะแลตีสนิทติดสินบน จนรู้ตำแหน่งแหล่งที่ถึงอุทยานพระเพื่อนพระแพง
แล้วจัดแบ่งผู้ติดตาม รอท่าจะเข้าสู่อุทยานอยู่

________________________________

ร่าย
    o ท้าวธเปนทุกข์เท่าฟ้า คิดหยั่งหน้าหยั่งหลัง ระวังองค์บพิตร ปิดบให้คนเห็น เปนทุกข์ดุจเริงรื่น แสร้งทำชื่นเผยม่าน เรียกชาวด่านริปอง สูนำสองพี่เลี้ยง เพี้ยงหฤไทยไปดู ที่ควรกูจะหยุดยั้ง ที่จะกั้งจะปิด ให้จงชิดจงชอบ ที่จะลอบจะเล็ด จงเปนเขบ็จเปนกล ที่สถลมารคจงถ่อง ท่องทางคดจงซื่อ ท่องทั้งชื่อดำบล ที่จะชุมพลช้างม้า ดูทั้งหน้าทั้งหลัง ระวังทั้งใกล้และไกล ตาไปใจส่องแล้ สองพี่พิศจงแท้ ถี่ถ้วนเขบ็จการ ฯ
โคลง ๒
    o รับสารกษัตริย์สั่งแล้วไหว้บาทบงกชแก้ว
จึ่งผ้ายลีลา ฯ 
    o มิคลาคำสั่งท้าวดูที่ทางทุกด้าว
ถี่ถ้วนใจจำ ฯ 
    o นำสองนายสู่ส้องทำเปนพี่เปนน้อง
ด้วยหมู่บ้านเทียมทาง ฯ 
    o เอาสินสกางสอดจ้างแข็งดังเหล็กเงินง้าง
อ่อนได้โดยใจ ฯ 
    o เปนผ่ายในสนิธแล้วกระแหน่นายขวัญแก้ว
กล่าวเกลี้ยงคำหวาน ฯ 
    o บอกอาการถี่ถ้อยเขาว่าอย่าแคลนน้อย
หนึ่งไว้งารตู ฯ 

ร่าย
    o ข้าก็เข้าไปดูอุทยาน หมู่พยาบาลสวนไท้ ให้สินจ้างชักชิด เงินทองปิดปากไว ใช้ใดได้ทุกประการ ข้าก็ไปดูทวารเวียงวัง ดูทั้งเรือนสองกษัตริย์ ที่ขัดข้าเห็นถ่อง ที่คล่องข้าเห็นถี่ ทุกที่ข้าเห็นถ้วน ม้วนทั้งมวลข้าใส่ใจ ห่อนให้ใครเห็นได้ ซ่อนเงื่อนงำแง่ไว้ เกียจกั้นเปนกล ฯ

ร่าย
    o แล้วไต่หนทางเสร็จ เตร็จบ้านทางชื่อซร่อง สองนายท่องทางป่า ง่าเงยไปคล้ายคล้าย จรผ้ายไปถึงหั้น ดั้นทางไปบหึง ถึงสมเด็จเจ้าตน ไหว้ทูลกลกระแหน่ เห็นที่แง่ที่มิด ทูลโดยกิจแล้วล้วน เขียนขีดขบวนถวายถ้วน ถี่ถ้อย ทุกประการ ฯ

ร่าย
    o พระภูบาลตรัสตรอง ไว้ช้างสองม้าสี่ ให้อยู่ที่นายด่าน ท่านก็เลือกคนสามสิบทัศ อาจสามารถโดยเสด็จ คนเจ็บสิบไว้เล่า อยู่ด้วยเหล่าช้างม้า เจ้าหล้ายั้งสำราญ หยุดท่าวารวันดี ฝ่ายสองศรีพี่เลี้ยง ฟังราชโองการเกลี้ยง กล่าวถ้าทูลสนอง ท่านนา ฯ

________________________________



(อ่านต่อ)

0 Comments:

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home