พระลอเสี่ยงน้ำ
พระลอเสี่ยงน้ำ
เมื่อข้ามแม่กาหลงแล้วลงสรง พระลอบังเกิดจิตคิดถึงพระมารดาขึ้นมาอย่าง ประหลาด "บาปสิ่งใดจำให้ ลูกร้อนใจถึง"
อีกทั้งละล้าละลังหวั่นไหว จะไปต่อหรือคืนหลังดี ตัดสินใจอธิษฐานเสี่ยงน้ำดูว่า หากไปต่อจะเปนเช่นไร...
นับเปนตอนที่สะเทือนใจอย่างยิ่งในลิลิตเรื่อง "พระลอ" นี้
ในตอนนี้ เห็นว่าควรต้องฟังเพลง "ลาวครวญ" เสียก่อน จึงจะถึงใจได้อรรถรส
เนื้อร้องเพลง "ลาวครวญ" นี้ ข้าพเจ้าแกะจากเทปตลับเดียวกันกับเพลง "ลาวสวยรวย" ที่ได้กล่าวถึงในตอนก่อนๆ ขับร้องโดย อ.สุรางค์ ดุริยะพันธ์ ซึ่งเปนผู้ที่ข้าพเจ้าเห็นว่าขับร้องเพลงไทยเดิมได้เยี่ยมอย่างยากจักหาใดเทียบทัน
= "ลาวครวญ" =
"โอ้พระชนนีศรีแมนสรวง จะโศกทรวงเสียวรู้สึกระลึกถึง
ไหนทุกข์ถึงบิตุรงค์ทรงรำพึง ไหนโศกซึ้งถึงตูคู่หทัย
ร้อยชู้หรือจะสู้เนื้อเมียตน เมียร้อยคนหรือสู้พระแม่ได้
พระแม่เคยอยู่เยือกเย็น ไม่เห็นใคร หรือกลับไปสู่นครก่อนจะดี
พี่เลี้ยงตรองพลางสนองพระดำรัส เห็นชอบชัดเชิญคืนบุรีศรี
เฉลิมกรุงบำรุงประชาชี ใหัเป็นที่เกษมสุขสืบไป
โอ้บพิธ ยิ่งคิดยิ่งขัดข้อน ครั้นจะจรก็ห่วงนครใหญ่
ครั้นจะคืนก็เกรงคนไยไพ ว่าท่านไท้คร้านขลาด ประดาษชาย
นายแก้วนายขวัญนายขวัญพลันเสนอ ใครจะเพ้อครหาว่าเสียหาย
หรือไปหน่อยจึ่งค่อยเอื้อนอุบาย หมดฉินยินร้ายทุกทาง
มา กูจะเสี่ยงน้ำลองดู ผิว่ากูรอดฤทธิ์ผีสาง
น้ำใสจงไหลควะควั่งคว้าง กูอับปาง น้ำเฉนียนจงเวียนวน"
ร่าย
o ถึงแม่น้ำกาหลง ปลงช้างชิดติดฝั่ง นั่งสำราญรี่กัน แล้วธให้ฟันไม้ทำห่วง พ่วงเปนแพสรรพเสร็จ ธก็เสด็จข้าม แม่น้ำแล้วไส้ ให้แผ้วที่ประทับ ดุจสำหรับขุนด่าน แล้วท่านเสด็จสรง สีเผ้าผงชำระ สระพระเกศเสร็จแล้ว ใจราชคิดแคล้วแคล้ว ถึงท่านไท้มารดา ท่านนา ฯ
โคลง ๒
o คิดปรานีออกไท้ | รอยราชละห้อยไห้ |
ถึงลูกแล้ณหัว | ลูกเอย ฯ |
โคลง ๔
o เจ็บรักเจ็บจากช้ำ | เจ็บเยียว ยากนา |
เจ็บใคร่คืนหล้งเหลียว | สู่หย้าว |
เจ็บเพราะลูกมาเดียว | แดนท่าน |
เจ็บเร่งเจ็บองค์ท้าว | ธิราชร้อนใจถึง ลูกฤๅ ฯ |
o เจ็บถึงบิตุราชแล้ว | ถึงกู เล่านา |
เจ็บอยู่คนเดียวดู | ละห้อย |
เจ็บเยียวราชศัตรู | ดูหมิ่น แคลนนา |
เจ็บเร่งเจ็บค้อยค้อย | ชอบม้วยเมือมรณ์ ฯ |
o ร้อยชู้ฤๅเท่าเนื้อ | เมียตน |
เมียแล่พันฤๅดล | แม่ได้ |
ทรงครรภ์คลอดเปนคน | ฤๅง่าย เลยนา |
เลี้ยงยากนักท้าวไท้ | ธิราชผู้มีคุณ ฯ |
o อย่าไปพหน้าจัก | คืนเมือ ฤๅพี่ |
หาสมเด็จบุญเหลือ | เลิศไท้ |
จรทกจรเทอญเขือ | วานช่วย ริรา |
บาปสิ่งใดจำให้ | ลูกร้อนใจถึง ฯ |
ร่าย
o บัดนี้จึ่งสองนาย ถวายกรกชประนม บังคมทูลบมิช้า ว่าข้าบาทสรวมชีพ เจ้าจอมทวีปโองการ พระภูบาลจักเต้า เข้ายังเมืองมิ่งคืน ข้าบาทยืนยลชอบ อย่าเยียวลอบไปเลย ควรเสวยสวัสดิ์ครองด้าว ด้วยสมเด็จน้องท้าว ท่านไท้ชนนี ท่านเทอญ ฯ
โคลง ๔
o จักไปจักเปลี่ยวข้าง | ทรชน |
ครั้นจะคืนเยียวคน | กล่าวร้าย |
ว่าท้าวปิ่นสากล | ใจขลาด นักนา |
พูลโทษทุรยศหว้าย | ว่าร้ายแหนงตาย ฯ |
โคลง ๓
o สองนายเกลี้ยงกล่าวทูล | ว่านเรศูรท่านไท้ |
ใครจะเอื้อมติได้ | เท่าเผ้าฤๅมี พระเอย ฯ |
โคลง ๔
o จักไปสักน้อยหนึ่ง | จึ่งคืน นาพี่ |
หน้าก็ยืนหลังยืน | ชอบได้ |
เกรงเยียวแต่ผีขืน | จำอยู่ ไส้นา |
เยียวบ่คืนเห็นไท้ | ธิราชผู้มีบุญ ฯ |
o มากูจะเสี่ยงน้ำ | นองไป ปรี่นา |
น้ำชื่อกาหลงไหล | เชี่ยวแท้ |
ผิวกูจะคลาไคล | บรอด คืนนา |
น้ำจุ่งเวียนวนแม้ | รอดไส้จงไหล ฯ |
o ครั้นวางพระโอษฐน้ำ | เวียนวน อยู่นา |
เห็นแก่ตาแดงกล | เลือดย้อม |
หฤไทยรทดทน | ทุกข์ใหญ่ หลวงนา |
ถนัดดั่งไม้ร้อยอ้อม | เท่าท้าวทับทรวง ฯ |
o บให้คนรู้เรื่อง | ฝืนใจ อยู่นา |
ขึ้นจากสรงเสด็จใน | อาสน์ไท้ |
ยังสุวรรณพพลาไชย | ใจดั่ง นี้นา |
ปิดม่านละห้อยไห้ | ออกท้าวบุญเหลือ ลูกเอย ฯ |
o พระตายจงลูกได้ | เห็นผี ท่านนา |
ผีลูกตายกษัตรีย์ | แม่ได้ |
เผาศพลูกอย่ามี | อุจาด ราแม่ |
ฤๅบ่ร้างเผาผีไท้ | บ่ร้างได้เผาผี ลูกเอย ฯ |
โคลง ๒
o ลูกตายก็ตายแล้ว | เจ็บบเห็นหน้าแก้ว |
เกิดเกล้ากูมา ฯ | |
o น้ำตาไหลหลั่งไห้ | เปนเลือดตกอกไหม้ |
ออกท้าวฤๅเห็น | ลูกเอย ฯ |
o ลางเข็ญเห็นแห่งน้ำ | อกลูกเพี้ยงผกขว้ำ |
ออกท้าวใจบุญ | ลูกเอย ฯ |
o เปนขุนยศยิ่งฟ้า | ฤๅบาปจำหว้ายหล้า |
หล่มหล้มตนเดียว ฯ | |
o จะเหลียวเหลียวบ่ได้ | เหยียบแผ่นดินผิดไส้ |
อยู่เต็มบาทา | พระเอย ฯ |
โคลง ๔
o เคยเปนจอมโลกเจ้า | ไอศวรรย์ |
ร้อยเอ็ดเมืองราชคัล | คั่งเฝ้า |
มาตกถึงกลางอรร- | ณพแต่ เดียวนา |
เยียวบเห็นหน้าเจ้า | ลูกแล้บเห็น ลูกเลย ฯ |
ให้นายแก้วนายขวัญ สืบเสาะแลตีสนิทติดสินบน จนรู้ตำแหน่งแหล่งที่ถึงอุทยานพระเพื่อนพระแพง
แล้วจัดแบ่งผู้ติดตาม รอท่าจะเข้าสู่อุทยานอยู่
ร่าย
o ท้าวธเปนทุกข์เท่าฟ้า คิดหยั่งหน้าหยั่งหลัง ระวังองค์บพิตร ปิดบให้คนเห็น เปนทุกข์ดุจเริงรื่น แสร้งทำชื่นเผยม่าน เรียกชาวด่านริปอง สูนำสองพี่เลี้ยง เพี้ยงหฤไทยไปดู ที่ควรกูจะหยุดยั้ง ที่จะกั้งจะปิด ให้จงชิดจงชอบ ที่จะลอบจะเล็ด จงเปนเขบ็จเปนกล ที่สถลมารคจงถ่อง ท่องทางคดจงซื่อ ท่องทั้งชื่อดำบล ที่จะชุมพลช้างม้า ดูทั้งหน้าทั้งหลัง ระวังทั้งใกล้และไกล ตาไปใจส่องแล้ สองพี่พิศจงแท้ ถี่ถ้วนเขบ็จการ ฯ
โคลง ๒
o รับสารกษัตริย์สั่งแล้ว | ไหว้บาทบงกชแก้ว |
จึ่งผ้ายลีลา ฯ | |
o มิคลาคำสั่งท้าว | ดูที่ทางทุกด้าว |
ถี่ถ้วนใจจำ ฯ | |
o นำสองนายสู่ส้อง | ทำเปนพี่เปนน้อง |
ด้วยหมู่บ้านเทียมทาง ฯ | |
o เอาสินสกางสอดจ้าง | แข็งดังเหล็กเงินง้าง |
อ่อนได้โดยใจ ฯ | |
o เปนผ่ายในสนิธแล้ว | กระแหน่นายขวัญแก้ว |
กล่าวเกลี้ยงคำหวาน ฯ | |
o บอกอาการถี่ถ้อย | เขาว่าอย่าแคลนน้อย |
หนึ่งไว้งารตู ฯ |
ร่าย
o ข้าก็เข้าไปดูอุทยาน หมู่พยาบาลสวนไท้ ให้สินจ้างชักชิด เงินทองปิดปากไว ใช้ใดได้ทุกประการ ข้าก็ไปดูทวารเวียงวัง ดูทั้งเรือนสองกษัตริย์ ที่ขัดข้าเห็นถ่อง ที่คล่องข้าเห็นถี่ ทุกที่ข้าเห็นถ้วน ม้วนทั้งมวลข้าใส่ใจ ห่อนให้ใครเห็นได้ ซ่อนเงื่อนงำแง่ไว้ เกียจกั้นเปนกล ฯ
ร่าย
o แล้วไต่หนทางเสร็จ เตร็จบ้านทางชื่อซร่อง สองนายท่องทางป่า ง่าเงยไปคล้ายคล้าย จรผ้ายไปถึงหั้น ดั้นทางไปบหึง ถึงสมเด็จเจ้าตน ไหว้ทูลกลกระแหน่ เห็นที่แง่ที่มิด ทูลโดยกิจแล้วล้วน เขียนขีดขบวนถวายถ้วน ถี่ถ้อย ทุกประการ ฯ
ร่าย
o พระภูบาลตรัสตรอง ไว้ช้างสองม้าสี่ ให้อยู่ที่นายด่าน ท่านก็เลือกคนสามสิบทัศ อาจสามารถโดยเสด็จ คนเจ็บสิบไว้เล่า อยู่ด้วยเหล่าช้างม้า เจ้าหล้ายั้งสำราญ หยุดท่าวารวันดี ฝ่ายสองศรีพี่เลี้ยง ฟังราชโองการเกลี้ยง กล่าวถ้าทูลสนอง ท่านนา ฯ
(อ่านต่อ)
0 Comments:
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home