สามกษัตริย์
ตอนนี้พรรณาถึงรูปโฉมพระลอได้อย่างเห็นภาพ... "ประเสริฐสรรพสรรพางค์ แต่บาทางค์สุดเกล้า พระเกศงามล้วนเท้า พระบาทไท้งามสม สรรพนา"
ครูพยงค์ มุกดาพันธ์ ได้ประพันธ์เพลง "ยอยศพระลอ" โดยใช้โคลงบทแรก คือ "รอยรูปอินทร์หยาดฟ้า มาอ่าองค์ในหล้า แหล่งให้คนชม" มาเป็นต้นบทเกริ่นของเพลง โดยใช้ทำนองเพลงที่ดัดแปลงมาจากเพลงไทยเดิมชื่อ "ลาวกระทบไม้" ให้ "ชินกร ไกรลาศ" เปนผู้ขับร้องประกอบในภาพยนต์เรื่อง "พระลอ"
เพลง "ยอยศพระลอ" นี้ทำให้ "ชินกร ไกรลาศ" ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำ ("ชินกร ไกรลาศ" นายชิน ฝ้ายเทศ ได้รับตำแหน่งศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง นักร้องเพลงลูกทุ่ง ใน พ.ศ. ๒๕๔๒)
โคลง ๒
o รอยรูปอินทรหยาดฟ้า | มาอ่าองค์ในหล้า |
แหล่งให้คนชม | แลฤๅ ฯ |
o พระองค์กลมกล้องแกล้ง | เอวอ่อนอรอรรแถ้ง |
ถ้วนแห่งเจ้ากูงาม | บารนี ฯ |
o โฉมผจญสามแผ่นแพ้ | งามเลิศงามล้วนแล้ |
รูปต้องติดใจ | บารนี ฯ |
o ฦๅขจรในแหล่งหล้า | ทุกทั่วคนเที่ยวค้า |
เล่าล้วนยอโฉม | ท่านแล ฯ |
o เดือนจรัสโพยมแจ่มฟ้า | ผิบได้เห็นหน้า |
ลอราชไซร้ดูเดือน | ดุจแล ฯ |
o ตาเหมือนตามฤคมาศ | พิศคิ้วพระลอราช |
ประดุจแก้วเกาทัณฑ์ | ก่งนา ฯ |
o พิศกรรณงามเพริศแพร้ว | กลกลีบบงกชแก้ว |
อีกแก้มปรางทอง | เทียบนา ฯ |
o ทำนองนาสิกไท้ | คือเทพนฤมิตไว้ |
เปรียบด้วยขอกาม ฯ | |
o พระโอษฐ์งามยิ่งแต้ม | ศศิอยู่เยียวยะแย้ม |
พระโอษฐ์โอ้งามตรู | บารนี ฯ |
ร่าย
o พิศดูคางสระสม พิศศอกลมกลกลึง สองไหล่พึงใจกาม อกงามเงื่อนไกรสร พระกรกลงวงคช นิ้วสลวยชดเล็บเลิศ ประเสริฐสรรพสรรพางค์ แต่บาทางค์สุดเกล้า พระเกศงามล้วนเท้า พระบาทไท้งามสม สรรพนา ฯ
ปก VCD ภาพยนต์เรื่อง "พระลอ"
ยอยศพระลอ (แกะจาก VCD "พระลอ" )
(ชาย) รอยรูปอินทร์หยาดฟ้ามาอ่าองค์ในหล้าแหล่งให้คนชม
งามสมขุนลอท้าว น้ำพระทัย ณ หัวเจ้ายิ่งแม่กาหลง
ยาม ธ ทรงคขสาร ธ ยิ่งหาญยิ่งกล้าเกินพญาสีหราชท้าวกลางศึก
พระบาทเจ้าล้านโลกใครบ่เท่าพ่อขุนแมนสรวง
(หมู่หญิง) ลา ล้าลาลาล้าลาลา ล้าลาหล่าล้าลาลา
(ชาย) รูปดั่งองค์อินทร์ หยาดฟ้ามาสู่ดิน โสภินดั่งเดือนดวง
เหนือแผ่นดินแมนสรวง เหนือปวงหนุ่มใด
(หมู่หญิง) ล้าลาล้าหล่าลา ล้าลาลาล้าหล่าลา
(หมู่หญิง) เหล่าอนงค์หลงสวาท ยอม เป็นทาส รักบำเรอ นามขุนลอท้าวเธอ ทรงสถิต ณ ทรวงใจ
(ชาย) ลุ่มแม่กาหลงเจ้าหรือจะเท่าถึงครึ่งแม้น้อยหนึ่งน้ำหทัย เมื่อทรงคชสาร ธ ยิ่งหาญยิ่งกล้า
(หมู่หญิง) หล่าลาล้าลาลาหล่า
(ชาย) ดั่งพญาสีหราชผู้เป็นใหญ่
(หมู่หญิง) หล่าลาล้าลาลาหล่า
(ชาย) ใช่เพียงศึกรบสยบ ธ ทรงชัย แม้ในศึกรัก พระยังยิ่งใหญ่
(หมู่หญิง) หล่าลาล้าลาลาหล่า
(ชาย) นาฎอนงค์ปลงใจใคร่อิงอุ่น
(หมู่หญิง) หล่าลาล้าลาลาหล่า
(ชาย) นับล้านโลการุ่นบ่ควรคู่บุญ ดั่งพ่อขุน (ล้าลา) แมนสรวง เอย
ภาพคุณแก้วมาลูน ผู้เอื้อเฟื้อซีดีภาพยนต์เรื่อง "พระลอ" กำลังร้องเพลง "เอื้องผึ้ง จันผา" โดยมีคุณน้ำมิ้นดีดซึงคลอ
ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย
เพลงไทยเดิมขับร้องอันเกี่ยวแก่พระลอที่ข้าพเจ้ามีฟังอีกเพลง ๑ คือ "ลาวสมเด็จ"
ลาวสมเด็จ
"เมื่อเอยเมื่อนั้น พระลอวรลักษณ์ล้ำเลขา
เอ๋ยก่องกุหลาบช่อ ชื่นใจพระลอของเผือนี่เอย
เอ๋ยก่องกุหลาบช่อ ชื่นใจพระลอของเผือนี่เอย
พระโฉมเฉิดเลิศมนุษย์สุดโสภา
เฉลิมราไชยศวรรย์ สวรรค์เวียงเอย
เอ๋ยพุ่มพิกุลฉัตร พระจุลจักรพรรดิของเเผื่อนี่เอย
เอ๋ยพุ่มพิกุลฉัตร พระจุลจักรพรรดิของเเผื่อนี่เอย
ผ่านดินแดนแมนสรวงบุรีราช
สนมมาตย์น้อมกายถวายเสียงเอย
เอ๋ยช่อชมนาด พระลอสุดสวาทของเผือนี่เอย
เอ๋ยช่อชมนาด พระลอสุดสวาทของเผือนี่เอย
บรรเลงร้องสนองเสนอบำเรอเรียง
งามเพียงดาวล้อมจันทราเอย
เอ๋ยช่อมะลุลี ชื่นชมบารมีพระลอนี่เอย
เอ๋ยช่อมะลุลี ชื่นชมบารมีพระลอนี่เอย"
แต่ด้วยเปนหญิง จึงมิอาจเอ่ยปากแพร่งพรายเอิกเกริก พี่เลี้ยงทั้งสอง คือนางรื่นแลนางโรยจึงวางอุบาย โดยจะใช้คนไปกระพือข่าวรูปโฉมอันพิลาศล้ำของพระเพื่อนพระแพงให้ยินถึงหูพระลอก่อน แล้วจึงหาผู้ทรงอาคมให้ใช้เวทมนต์ ทำเสน่ห์เรียกพระลอมาสู่สรอง "..ให้ลอบลองเท้าแล้ อยู่ได้ฉันใด"
ในตอนนี้ ในส่วนการเจรจาตอบโต้กันระหว่างพระเพื่อนพระแพง กับ พี่เลี้ยงทั้งสอง ได้แยกสีไว้ เพื่อให้เห็นเด่นชัด
เคยมีโคลงบทหนึ่งถูกนำมาเปนตัวอย่างให้ท่องจำ เพื่อจดจำตำแหน่งบังคับ เอก โท ของ โคลง ๔ สุภาพ ได้แก่บทที่พระเพื่อน พระแพง กล่าวตอบเปนนัยแก่พี่เลี้ยงทั้งสอง อันขึ้นต้นว่า.. "เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย..."
"ซอ" ในที่นี้ แลตลอดทั้งเรื่อง เปนการขับลำนำแบบล้านนาอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดได้จากเว็บของ "สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่"
โคลง ๔
o ขับซอยอราชเที้ยร | ทุกเมือง |
ฦๅเล่าพระลอเลือง | ทั่วหล้า |
โฉมบาบพิตรเปลือง | ใจโลก |
สาวหนุ่มฟังเป็นบ้า | อยู่เพี้ยงโหยหน ฯ |
o เล่าฦๅโฉมท้าวทั่ว | เมืองสรอง |
ขจรข่าวถึงหูสอง | พี่น้อง |
รทวยดุจวัลย์ทอง | ครวญใคร่ เห็นนา |
โหยลห้อยในห้อง | อยู่เหยี้ยมฟังสาร ฯ |
o พระแพงพระเพื่อนเพี้ยง | พิศวง |
นับอยู่ในใจจง | จอดไท้ |
มลักเห็นดอกกลหลง | ฉงนเงื่อน อยู่นา |
อกอ่อนรทวยไหม้ | สรากหน้าตาหมอง ฯ |
o นางโรยนางรื่นขึ้น | ไปเยือน |
เห็นราชสองหมองเหมือน | ดั่งไข้ |
ทุกวันดุจดวงเดือน | งามชื่น ไส้นา |
หมองดั่งนี้ข้าไหว้ | บอกข้าขอฟังหนึ่งรา ฯ |
o ผิวไข้พูนพยาธิไซร้ | ยาหาย ง่ายนา |
ไข้หลากทั้งหลายใคร | ช่วยได้ |
ไข้ใจแต่จักตาย | ดีกว่า ไส้นา |
สองพี่นึกในไว้ | แต่ถ้าเผาเผือ ฯ |
โคลง ๒
o ข้าฟังเหลือที่พร้อง | สองสมเด็จพระน้อง |
กล่าวนี้กลใด ฯ | |
o ใดขัดใจแม่ ณ เกล้า | สองสมเด็จพระเจ้า |
บอกไว้งารเผือ ฯ |
ร่าย
o เจ็บเผือเหนือแผ่นดิน นะพี่
หลากระบิลในแหล่งหล้า นะพี่
บอกแล้วจะไว้หน้าแห่งใด นะพี่
ความอายใครช่วยได้ นะพี่
อายแก่คนไส้ท่านหัว นะพี่
แหนงตัวตายดีกว่า นะพี่
เจ็บเผือเหลือแห่งพร้อง นะพี่
โอ้เอ็นดูรักน้อง อย่าซ้ำจำตาย หนึ่งรา ฯ
ร่าย
o ข้าไหว้ถวายชีพิต เผือข้าชิดข้าเชื่อ เขือดังฤๅเหตุใด ธมิไว้ใจเท่าเผ้า สองแม่ ณ หัวเจ้า มิได้เอ็นดูเผือฤๅ ฯ
โคลง ๔
o เสียงฦๅเสียงเล่าอ้าง | อันใด พี่เอย |
เสียงย่อมยอยศใคร | ทั่วหล้า |
สองเขือพี่หลับใหล | ลืมตื่น ฤาพี่ |
สองพี่คิดเองอ้า | อย่าได้ถามเผือ ฯ |
o สิ่งนี้น้องแก้วอย่า | โศกา ณ แม่ |
เผือจักขออาสา | จุ่งได้ |
ฉันใดราชจักมา | สมสู่ สองนา |
จักสื่อสารถึงไท้ | หากรู้เปนกล ฯ |
o ความคิดผิดรีตได้ | ความอาย พี่เอย |
หญิงสื่อชักชวนชาย | สู่หย้าว |
เจ็บเผือว่าแหนงตาย | ดีกว่า ไส้นา |
เผือหากรักท้าวท้าว | ไป่รู้จักเผือ ฯ |
o ไป่ห่อนเหลือคิดข้า | คิดผิด แม่นา |
คิดสิ่งเปนกลคิด | ชอบแท้ |
มดหมอแห่งใดสิทธิ์ | จกสู่ ธแม่ |
ให้ลอบลองเท้าแล้ | อยู่ได้ฉันใด ฯ |
ร่าย
o ข้าจะใช้ชาวในผู้สนิท ชิดชอบอัชฌาไสย ไปซื้อขายวายล่อง แล้วให้ท่องเที่ยวเดิร สรรเสริญสองโฉมศรี ทั่วบุรีพระลอ ขับซอยอยศอ้าง ฤๅลูกกษัตริย์เจ้าช้าง ชื่นแท้ใครเทียม เทียบนา ฯ
แผนประโคมสิริโฉมเพื่อนแพงสัมฤทธิ์ผล
คนของสรองเที่ยวขับซอสรรเสริญความงามพร้อมของพระเพื่อนพระแพง จนทราบถึงพระลอ
พระลอให้คนของเมืองสรองเข้าเฝ้า เมื่อฟังคำพรรณาถึงรูปโฉมพระเพื่อนพระแพงแล้วบังเกิดจิตเสนหา ฝากความนัยไปยังสองศรี พระกรเกยผากไท้ มือลูบทรวงไล้ไล้ ทำเล่ห์ให้เขาเห็น
เปนอันสำเร็จแผนขั้นต้นของนางรื่นนางโรย
ในตอนยอสิริโฉมสองศรีแห่งสรองนี้ กรมศิลปากร โดยหม่อมแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ได้ปรับปรุงประดิษฐ์ท่ารำขึ้นมาใช้ในการแสดงนาฏศิลป์ไทยในชุด "ตับลาวเจริญศรี" ชื่อ "ลาวเจริญศรี" (ทำนองเพลง ลาวเล็กตัดสร้อย) เนื้อหาพรรณาถึงความงามของพระเพื่อนพระแพง
"ตับลาวเจริญศรี" จางวางทั่ว พาทยโกศล เป็นผู้เรียบเรียงนำมาขับร้องบรรจุเพลงเป็นคนแรก ประกอบด้วยเพลง เกริ่น ลาวเล็กตัดสร้อย ลาวเล่นน้ำ สาวกระตุกกี่ กระแตเล็ก เกริ่น ดอกไม้เหนือ ลาวเฉียง ลาวครวญ ลาวกระแช
ลาวเจริญศรี
"อายุเยาวเรศรุ่นเจริญศรี
พระเพื่อนพี่ แพงน้อง สองสมร
งามทรง งามองค์ ออนซอน
ดังอัปสรหยาดฟ้าลงมา
แม่คุณเอ๋ย ข้อยบ่เคยพบเจ้า
สองนางลำเพาดูเจ้างามตา
สาวใดบ่เหมือนสองเพื่อนแพงนา
ตั้งแต่ข้อยดูมา ลักษณาบ่ปาน"
ก็ดังข้าพเจ้าจะมีเพลงอันพรรณารูปโฉมสองสมรอีกเพลงหนึ่ง ชื่อ ลาวเสี่ยงเทียน
ซึ่งเปนบทร้องในละครเรื่อง "พระลอนรลักษณ์" อันเปนบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ เนื้อความกล่าวชมโฉมพระเพื่อนพระแพง
จึงเพลานี้ขอนำมาบันทึกไว้เสียก่อน..
ในส่วนของทำนองเพลง "ลาวเสี่ยงเทียน" ที่แพร่หลายกันต่อมานี้ หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ได้นำของเก่าซึ่งเปนอัตราสองชั้น มาแต่งขยายขึ้นเปนสามชั้น แล้วต่อมาก็ตัดลงเปนชั้นเดียว จนครบเปนเพลงเถา
ซึ่งต่อมามีการเอาทำนองนี้ไปแต่งเนื้อประกอบอีกมากมาย ทังเพลงไทยเดิม เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง แลเพลงของคณะสุนทราภรณ์..
ลาวเสี่ยงเทียน (ตัด)
(สามชั้น)
"ข้อยขอบังคมองค์ทรงภพ เลิศลบแห่งหล้าสุธาไหว
ทรงโฉมประโลมลักษณ์วิไล ดังไทเทวราชปราสาททอง
จะเทียมทัดแต่กษัตริย์นครหนึ่ง ใครไม่ถึงเทียมเธอเสมอสอง
มีธิดานารีพี่น้อง ชื่อพระเพื่อนแพงทองสองอนงค์
ไม่สูงต่ำดำขาวพีผอม พริ้งพร้อมสรรพางค์ดังนางหงส์
อรชรอ้อนแอ้นเอวองค์ ดวงพักตร์โฉมยงดังวงเดือน
พิศพี่ก็ไม่มีเสมอสอง พิศน้องก็ไม่มีเสมอเหมือน
ขนงเนตรเกศแก้มแย้มเยื้อน เหมือนจะเตือนให้ต้องตาชาย
(สองชั้น)
พระกรรณเปรียบเทียบกลีบบุษบง นาสิกทรงวงขอวิเชียรฉาย
ดำเนินเดินทอดระทวยกาย กรกรายคล้ายงวงเอราวัณ
โอษฐ์นางอย่างสีลิ้นจี่จิ้ม งามพริ้มเพราสมคมสัน
เกศาดำระยับขลับเป็นมัน ทนต์นั้นเทียมสีมณีนิล
(ชั้นเดียว)
สองถันสันทัดสัตตบุษย์ พึ่งผุดพ้นท่าชลาสินธุ์
ขึ้นบังใบใสสดหมดมลทิน ภุมรินยังมิได้ใกล้เคียง"
โคลง ๔
o ทุกเมืองมีลูกท้าว | นับมี มากนา |
บเปรียบสองกษัตรีย์ | พี่น้อง |
พระแพงแม่มีศรี | สวัสดิ์ยิ่ง คณนา |
พระเพื่อนโฉมยงหย้อง | อยู่เพี้ยงดวงเดือน ฯ |
o โฉมสองเหมือนหยาดฟ้า | ลงดิน |
งามเงื่อนอัปสรอินทร์ | สู่หล้า |
อย่าคิดอย่าควรถวิล | ถึงยาก แลนา |
ชมยะแย้มทั่วหน้า | หน่อท้าวมีบุญ ฯ |
o หมื่นขุนถ้วนหน้าส่ำ | หัวเมือง ก็ดี |
อย่าใคร่อย่าคิดเคือง | สวาทไหม้ |
สมภารส่งสองเรือง | สองรุ่ง มานา |
สองราชควรท้าวไท้ | ธิราชผู้มีบุญ ฯ |
โคลง ๒
o ยอยศสองอ่อนท้าว | ฦๅทั่วทุกแดนด้าว |
ลอราชได้ฟังสาร ฯ | |
o ฟังตระการอยู่เกล้า | ให้เร่งเบิกเขาเข้า |
มาสู่โรงธาร | ท่านแล ฯ |
o ฟังสารสองหนุ่มหน้า | จอมราชควรคิดอ้า |
อกร้าวหัวใจ | ท่านนา ฯ |
o มลักนึกในคแคล้ว | ผิพี่มีบุญแก้ว |
พี่เพี้ยงไปสม | เจ้านา ฯ |
ร่าย
o ชมข่าวสองพี่น้อง ต้องหฤทัยจอมราช พระบาทให้รางวัล ปันเสื้อผ้าสนอบ ขอบใจสูเอาข่าว มากล่าวต้องติดใจ บารนี ฯ
โคลง ๒
o ฉันใดกูจักได้ | สมพระนุชน้องไท้ |
อ่อนท้าวทั้งสอง ฯ | |
o ท้าวธจำนองโคลงอ้าง | โคลงบพิตรเจ้าช้าง |
ชื่อแท้ใดเทียม | เทียบนา ฯ |
โคลง ๔
o เรียมฟังสารอ่านอ้าง | อันผจง กล่าวนา |
ถนัดดั่งเห็นองค์ | อะเคื้อ |
สองศรีสมบูรณ์บง | กชมาศ กูเอย |
นอนแนบสองข้างเนื้อ | แนบเนื้อชมเชย ฯ |
โคลง ๒
o พระกรเกยผากไท้ | มือลูบทรวงไล้ไล้ |
ทำเล่ห์ให้เขาเห็น ฯ |
ร่าย
o เปนปฤศนาแล้วไส้ ธก็ให้เลี้ยงดูโดยขนาด เขาก็ลาพระบาทเมื้อเมือง หน้ารุ่งเรืองชมชื่น ไปบอกแก่นางรื่นนางโรย โดยยุบลทุกสิ่ง จึงสองนางพี่เลี้ยง ทูลแด่สองเนื้อเกลี้ยง ถี่ถ้วนสารแสดง ฯ
ให้ช่วยใช้อวิชชาอาคมชักนำพระลอ
ทว่า ส่วนใหญ่เปนแต่แม่มดหมอผีทำเสน่ห์ ที่ใช้อาคมได้ก็แต่ต่อคนชั่วต่ำช้า เท่านั้น
ทีจักกระทำต่อผู้เปี่ยมบุญบารมีเฉกเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินนั้น หาได้ไม่
มีปู่หมอใหญ่อาสาพาไปขอความช่วยเหลือจาก "ปู่เจ้าสมิงพราย" ซึ่งเปนผู้เดียวที่อาจทำได้ ... "ธว่าให้ตายก็ตายทันเห็น ธว่าให้เปนก็เปนทันใจ จะลองใครใครก็มา..."
เขียว, เคียว, เครียว (โบราณ) = รีบไป, รีบมา
ลอง = ใช้อาคมเรียกให้มาหา (ภาษาล้านนา อีกคำหนึ่งที่ "ขุนมน" เคยได้ยินแต่ยังเด็ก คือ ตู้ หมายถึงการเสกของเข้าตัวคน เช่น เสกหนังควายเข้าท้อง)
ร่าย
o จึ่งแสวงหายายมด ไปจรดผู้ยายำ จำเอาแต่ผู้สิทธิ์ รู้ชิดใช้กลคล่อง บอกทำนองทุกอัน ครันธช่วยลุไส้ ตูจะให้ลาภจงครัน จะให้รางวัลจงพอ ครั้นพระลอสมสองแล้ว อยู่ช่างยายมดแก้ว อะคร้าวใดปาน เปรียบเลย ฯ
โคลง ๓
o ยายฟังสารยายส่ายหัว | ยายเคยลองแต่ตัวชั่วตัวช้า |
ยายจักลองเจ้าหล้า | บ่ได้หลานเอย ฯ |
โคลง ๒
o ยายเคยใครอย่าไส้ | ยายช่วยยายชักให้ |
ถ่องแท้จักไป | สู่นา ฯ |
ร่าย
o ยายว่าเยียกระใดเขาทุกผู้ ตูรู้จักเขาทั่วหน้า ย่อมชั่วช้ามิเปนกล เห็นแต่ตูสามคนแก่แม่มดเถ้า แก่เจ้าแม่มดใหญ่ จะลองใครใครก็มา จะหาใครใครก็เต้า เว้นแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ธรู้ศิลป์รู้ศาสตร์ ธมีอำนาจมีบุญ คุณตูไกลท่านไท้ สองราชนั้นฤๅได้ อาจยื้อฤๅถึง เลยนา ฯ
ร่าย
o ดังจึงตูจะรู้จัก หมอสิทธิศักดิ์สามคน รู้พระมนต์มีฤทธิ์ ลูกศิษย์ปู่สมิงพราย ยายก็นำไปบอก ถึงจรอกหมอแล้วมา ข้าก็เข้าไปสู่ ปู่หมอเฒ่าเจ้าหมอหลวง บำบวงบอกทุกประการ วานธช่วยกังวน หมอกล่าวกลยายมด ตูนี้ยศยังต่ำ ลองแต่ส่ำพอดี พอแรงผีแรงมนต์ เจ้าสากลผ่านหล้า หน้าผู้ใดจะลองลุ สนองนางทุทรฮู ว่าธเอนดูรู้จัก ผู้มีศักดิ์มีสิทธิ์ ผู้มีฤทธิ์มีอำนาจ อาจลองธมาได้ ตูจะให้ลาภจงเต็มกอง ตูจะให้ทองจงเต็มโกฏิ ทั้งผู้บอกโสตรจะรางวัล เชิญบอกพลันอย่าช้า จงดูรู้จักหน้า ท่านให้เต็มใจ หนึ่งรา ฯ
ร่าย
o หมอว่าในใต้ฟ้า ทั่วแหล่งหล้าผู้ใด ใครจักเทียมจักคู่ ปู่เจ้าปู่สมิงพราย ธว่าให้ตายก็ตายทันเห็น ธว่าให้เปนก็เปนทันใจ จะลองใครใครก็มา จะหาใครใครก็บอยู่ จะไปสู่ท่านไส้ ไว้ตูจะนำไป เถ้าว่าทางไกลจรล่ำ วันนี้ค่ำสองนางเมือ พรุ่งเช้าเขือเขียวมา สองนางลาสองเถ้า ไปบอกแก่สองเจ้า สองอ่อนเท้ายินดี ยิ่งนา ฯ
(อ่านต่อ)
0 Comments:
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home